เกิดเหตุรถไฟระหว่างเมืองแล่นชนต้นไม้ที่ล้มทับราง ด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใกล้เมืองมงต์เปลลิเย่ร์ ทางภาคใต้ของฝรั่งเศสในวันพุธ(17 สิงหาคม) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 8 คน
รอยเตอร์อ้างคำบอกเล่าของโฆษกหน่วยฉุกเฉินเผยว่า “ผู้โดยสารคนหนึ่งอาการวิกฤต และอีกนับสิบคนบาดเจ็บสาหัส” พร้อมระบุว่าได้ให้การรักษาผู้โดยสารคนอื่นๆที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ณ จุดเกิดเหตุ อีกราวๆ 50 คน
โฆษกของ SNCF บริษัทเดินรถไฟแห่งรัฐ บอกว่ารถไฟขบวนดังกล่าวกำลังเดินทางด้วยความเร็วปกติบนรางใกล้หมู่บ้านแซงต์-อูเนส์ และในตอนเกิดอุบัติเหตุเวลาประมาณ 15.30น.(ตรงกับเมืองไทย 20.30น.) มีผู้โดยสารอยู่บนขบวนรถไฟราว 200 คน
ภาพข่าวบนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นด้านหน้าของขบวนรถไฟพังยับและเศษซากกระจัดกระจายภายใน
ด้านเอเอฟพีรายงานว่ารถไฟระหว่างเมืองนีมส์และมงต์เปลลิเย่ร์ขบวนนี้ กำลังแล่นด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตร ตอนที่พุ่งชนต้นไม้ที่ถูกพายุซัดหักโค่นลงมาทับราง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 8 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยประมาณ 50 ราย
เอเอฟพีอ้างคำสัมภาษณ์ของ คริสโตเฟอร์ ริสดอร์เฟอร์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยท้องถิ่นเผยว่าหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ขณะที่อีก 50 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหรืออยู่ในอาการช็อค
“หน่วยดับเพลิงและตำรวจอยู่ ณ จุดเกิดเหตุแล้ว หลังจากเบื้องต้นการเข้าถึงนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก” โฆษกของ SNCF ระบุ