รัฐบาลอินโดนีเซียใช้โอกาสวันชาติปีที่ 71 วันพุธ (17 สิงหาคม) จมเรือต่างชาตินับสิบลำที่รุกล้ำน่านน้ำและถูกยึดไว้ได้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ได้ประกาศกร้าวว่าจะไม่อดทนกับเรือประมงต่างชาติที่ลักลอบเข้ามา “ขโมย” ทรัพยากรไปจากน่านน้ำอินโดนีเซีย
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2014 วิโดโดได้สั่งให้กองทัพเรือยกระดับปกป้องน่านน้ำของอินโดนีเซียอย่างจริงจัง และสั่งทำลายเรือต่างชาติที่บุกรุกน่านน้ำมาแล้วหลายสิบลำ
มัส อะหมัด ซันโตซา เจ้าหน้าที่กระทรวงประมง ระบุว่า “วันนี้เราได้ส่งเรือ 60 ลำออกไปทำลายใน 8 สถานที่… เพื่อเป็นของขวัญ (ให้ชาวอินโดนีเซีย) และแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า เราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ดี การทำลายเรือต่างชาติคราวนี้ไม่ได้ถ่ายทอดสดผ่านสื่อโทรทัศน์เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียก็ไม่ระบุด้วยว่า เรือที่ถูกทำลายนั้นเป็นเรือสัญชาติใดบ้าง
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียได้ทำการยึดเรือจากหลายประเทศ เช่น จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยจีนแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจกับมาตรการตอบโต้ที่แข็งกร้าวของอินโดนีเซีย
ความตึงเครียดระหว่างอินโดนีเซีนและจีนเริ่มปะทุหนักขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เนื่องจากมีเรือประมงของจีนล่องเข้าไปยังทะเลอาณาเขตของหมู่เกาะนาตูนา (Natuna Islands) จนเกิดปะทะกับเรือของรัฐบาลอินโดนีเซียหลายครั้ง ถึงขั้นที่ประธานาธิบดี วิโดโด ต้องขึ้นเรือรบไปเยือนหมู่เกาะนาตูนาเมื่อเดือน มิถุนายน เพื่อยืนยันอธิปไตยของอินโดนีเซีย
ระหว่างแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาที่กรุงจาการ์ตาเมื่อวันอังคาร (16) วิโดโดยืนยันหนักแน่นว่าจะปกป้องดินแดนและน่านน้ำ “ทุกตารางนิ้ว” ไม่ให้ใครมารุกราน
ในขณะที่ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และ เวียดนาม ต่างอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับจีนในทะเลจีนใต้ แต่อินโดนีเซียกลับยืนยันมาตลอดว่า ไม่เคยมีข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตทางทะเลหรือหมู่เกาะใดๆ ก็ตามกับจีน
รัฐบาลจีนเองก็ยอมรับว่าอินโดนีเซียเป็นเจ้าของหมู่เกาะนาตูนา แต่กลับอ้างว่ามีปัญหาอยู่ที่เรื่อง “เขตเศรษฐกิจจำเพาะ” รอบๆ หมู่เกาะ ซึ่งไปทับซ้อนกับพื้นที่ที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์อยู่
