สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ คนร้ายจุดชนวนระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์ที่หน้าโรงเรียน ทำให้เด็กอนุบาลที่กำลังเดินเข้าโรงเรียนพร้อมพ่อที่มาส่ง ต้องเสียชีวิตคาที่ ทิ้งน้องชายก่อนวัยเรียนรอคอยพ่อมารับอยู่ในโรงเรียนเพียงลำพัง
เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.25 น. ที่หน้าโรงเรียนบ้านตาบา ในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 7 ราย เป็นครู ผู้ปกครอง และตำรวจที่อำนวยการจราจรอยู่ด้านหน้าโรงเรียน
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 2 คนเป็นพ่อลูกกัน คือ นายมะเย็ง เว๊าะบ๊ะ อายุ 36 ปี กับ เด็กหญิงมิตรา เว๊าะบ๊ะ อายุเพียง 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล โดยนายมะเย็งและลูกสาวถูกสะเก็ดระเบิดขณะกำลังเดินเข้าโรงเรียน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย
1.ร.ต.ต.ประพิศ บุญสร้าง อายุ 52 ปี
2.ด.ต.กิตติพงษ์ ศรีขำ อายุ 47 ปี
3.ส.ต.ต.วรรณุชิต แซ่ค้อ อายุ 22 ปี
4.ส.ต.ต.เตาฟิค อารง อายุ 29 ปี
5.น.ส.นูรไอนี ยูโซ๊ะ อายุ 25 ปี
6.นายตัลมีซี มะดาโอ๊ะ อายุ 23 ปี อาการสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา
7.นายรัสดี มะแอ อายุ 42 ปี
8.นางกูสีหม๊ะ กูมะ อายุ 40 ปี
สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนี้ เบื้องต้นตำรวจระบุว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายซุกไว้ในรถจักรยานยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์บอมบ์ โดยคนร้ายขี่มาจอดบริเวณหน้าโรงเรียน แล้วหลบหนีไป ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น
โดยหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้มีการปิดกั้นพื้นที่ และได้ให้ครู และนักเรียนทั้งหมดอยู่แต่ภายในโรงเรียน ขณะที่ลูกชายอีกคนของผู้เสียชีวิตที่เรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองตากใบ ขณะเกิดเหตุระเบิด น้องยังไม่ทราบว่าคุณพ่อเสียชีวิต และกำลังรอให้คุณพ่อมารับกลับบ้านหลังโรงเรียนประกาศหยุดเรียน
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 02.30 น. คนร้ายลอบเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในพื้นที่บ้านสะโต หมู่ 5 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ทำให้เสาส่งสัญญานได้รับความเสียหาย
พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงหลังเกิดเหตุทันทีว่า ยังคงเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในการสร้างสถานการ์เพื่อทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยไม่เคยคำนึงถึงเป้าหมาย ดังเช่นเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ทำให้เด็กน้อยวัยเพียง 4 ขวบต้องตกเป็นเหยื่อ การกระทำของกลุ่มคนร้ายไม่ได้มีอุดมการณ์ตามที่กล่าวอ้าง แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตน
ล่าสุด พลโท วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้รวบรวมหลักฐานอย่างรอบด้าน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษอย่างเร่งด่วน พร้อมกำชับให้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้สูญเสียต่อไป
