รัฐสภาสหรัฐฯ มีมติให้มีการลงโทษต่อระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด และอิหร่านในฐานะผู้สนับสนุน
เครือข่ายเฝ้าระวังตะวันออกกลางรายงานว่า สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกามีมติเมื่อวันอังคารที่(15 พฤศจิกายน)ผ่านมา ให้มีบทลงโทษเกี่ยวกับระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย รวมถึงการลงโทษต่ออิหร่านในฐานะผู้ให้การสนับสนุน
การให้มีการลงโทษด้วยการคว่ำบาตรเป็นการแสดงออกถึงฉันทามติของทั้ง 2 พรรคใหญ่ที่หายาก เกี่ยวกับความจำเป็นที่จะใช้ในการกดดันระบอบการปกครองซีเรีย หลังจากความพยายามในการเจรจาต่อรองโดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจอห์น เคอร์รีล้มเหลว ในขณะที่ประธานาธิบดีบารัก โอบาล้มเหลวที่จะต้องดำเนินการอย่างจริงจังในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับซีเรีย และรัสเซียพันธมิตรของเขา
สภานิติบัญญัติสหรัฐฯได้กล่าวว่าระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด ก่ออาชญากรรมสงครามจากความจริงที่ว่าประชาชนเกือบครึ่งล้านถูกฆ่าตายในสงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นในซีเรีย หลังจากประชาชนพยายามเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี 2011 ที่ผ่านมา
“สิ่งที่เรามีตอนนี้เป็นบทเรียนที่น่ากลัวในความทุกข์ของมนุษย์” Ed Royce จากพรรครีพับลิกันกล่าวเพิ่ม “เราได้เห็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้น … พอ พอกันที”
สภาคองเกรสมีมติอนุมัติการกำหนดให้มีการลงโทษโดยมีเป้าหมายที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งรวมไปถึงอิหร่าน และรัสเซียซึ่งรัฐมนตรีเคอร์รี่เคยระบุว่าอาชญากรรมสงครามเกิดขึ้นแล้วเนื่องจากการใช้ปฎิบัติการทางทหารในซีเรียที่ได้คร่าชีวิตพลเรือนและโรงพยาบาลจำนวนมากที่ถูกทำลาย
นอกเหนือจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ, มาตรการดังกล่าวยังให้อำนาจกระทรวงการต่างประเทศเพื่อช่วยในการรวบรวมพยานหลักฐานในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามสำหรับการดำเนินคดีในอนาคตต่อระบอบการปกครองซีเรีย และผู้สนับสนุนด้วย
“ถ้าคุณกำลังทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงกับระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดคุณมีความเสี่ยงที่จะต้องถูกดำเนินการตามมาตรการณ์ลงโทษของเรา” Eliot Engel จากพรรครีพับลิกันกล่าว
ขณะที่สภาคองเกรสลงมติอย่างท่วมท้นในการสนับสนุนมาตรการดังกล่าว และต้องส่งมติดังกล่าวไปยังวุฒธิสภาได้พิจารณาก่อนที่จะส่งไปยังประธานาธิบดีเพื่อลงนามประกาศใช้ต่อไป
ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า พระราชบัญญัติ Caesar Syria Civilian Protection หลังจากพลเรือนชาวซีเรียจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด ตามการเปิดเผยในเอกสารที่ร่วมไหลออกมา
แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะควบคุมเสียงข้างมากในสภาสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว แต่ก่อนหน้านี้ทำเนียบขาว และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้คัดค้านร่างมติดังกล่าวโดยอ้างว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์