เรือโรฮิงญาหนีตายจากทหารพม่าล่มกลางแม่น้ำ

ชาวประมงบังกลาเทศเปิดเผยว่า เรือที่ชาวโรฮิงญาโดยสารมาจนเต็มแน่นเพื่อหนีภัยความรุนแรงในพม่า และพยายามข้ามฝั่งแม่น้ำไปให้ถึงบังกลาเทศเกิดจมลง คาดมีชาวโรฮิงญาสูญหายและจมน้ำหลายสิบคน

ชาวโรฮิงญาหลายพันคนเดินทางถึงบังกลาเทศหลังเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ทางตะวันตกของพม่า ที่ทหารพม่าถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุข่มขืนและสังหารชาวโรฮิงญา รวมทั้งเผาหมู่บ้าน

ชาวประมงบังกลาเทศระบุว่าได้เข้าช่วยเหลือหญิงคนหนึ่ง ที่บอกกับเขาว่าเรือของเธอจมลงในแม่น้ำนาฟ หลังถูกเรือเร็วของกองทัพพม่าเข้ารุกไล่

“เราได้ยินเสียงร้องไห้ขอความช่วยเหลือของผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อตอนเช้า ตอนที่เรากำลังหาปลาในแม่น้ำ เรารีบพายเรือไปตรงจุดนั้นและเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพยายามลอยตัว” ชาวประมง กล่าว

“ผู้หญิงคนนั้นบอกกับเราว่าเรือของเธอเต็มไปด้วยชาวโรฮิงญาที่พยายามจะข้ามแม่น้ำเข้ามาในบังกลาเทศ”

หญิงคนดังกล่าวไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับชาวโรฮิงญาที่เหลือ และไม่สามารถบอกได้ว่ามีคนบนเรืออยู่ทั้งหมดเท่าใด

แต่สำนักข่าว UNB รายงานอ้างคำกล่าวของสมาชิกสภาหมู่บ้านในบังกลาเทศว่า มีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 31 คน อยู่บนเรือ ขณะที่แหล่งข่าวชาวโรฮิงญากล่าวทางโทรศัพท์ว่า มีศพผู้หญิงและเด็กทั้งหมด 13 ศพ โดย 2 ศพในนั้นมีบาดแผลจากกระสุนปืน ถูกพัดเกยฝั่งแม่น้ำนาฟด้านฝั่งพม่า

คาดว่ามีชาวโรฮิงญาประมาณ 30,000 คน ถูกบังคับให้ต้องละทิ้งบ้านเรือนนับตั้งแต่มีการปราบปรามโดยกองทัพพม่าในรัฐยะไข่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม และมีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 10,000 คน เดินทางถึงบังกลาเทศ ตามการระบุของสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ก่อน แม้บังกลาเทศจะระบุว่าได้ขัดขวางชาวโรฮิงญาจำนวนมากไม่ให้เข้ามาในเขตพรมแดนก็ตาม พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติกลับไปกดดันพม่าให้เคารพหลักสิทธิมนุษยชนมากขึ้นในการดำเนินการกับชาวโรฮิงญา

ความคิดเห็น

comments