ชาวบ้านที่นับถือศาสนาอิสลามในรัฐยะไข่ ของพม่า เผยว่าพวกเขาหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวกจากการเยือนของผู้แทนสหประชาชาติที่เดินทางลงเยี่ยมพื้นที่ ที่ทหารถูกกล่าวหาว่ากระทำการละเมิดสิทธิชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม ทั้งสังหาร ข่มขืน และวางเพลิงเผาบ้านเรือนผู้คน แต่บางคนยังหวั่นหลังจากพบผู้แทน UN พวกเขาอาจถูกจับเหมือนคนที่เคยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่การทูตก่อนหน้านี้
ยางฮี ลี ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สิ้นสุดการเยือน 3 วัน เมื่อวันอาทิตย์ (15) ในการสอบสวนสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ที่การปราบปรามของทหารได้ผลักดันชาวมุสลิมโรฮิงญาประมาณ 65,000 คน หลบหนีข้ามชายแดนเข้าไปในบังกลาเทศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
“เราหวังว่าการเยือนของเธอจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทางบวกสำหรับโรฮิงญา และเราหวังที่จะได้รับสิทธิของเรา” ชายชาวโรฮิงญาพลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจีกันเปง กล่าว
การปราบปรามเริ่มต้นขึ้นใน 9 ตุลาคม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 9 นาย ถูกสังหารในเหตุโจมตีของกลุ่มคนลึกลับตามแนวชายแดน ซึ่งรัฐบาลและกองทัพได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาการละเมิดและการสังหาร โดยระบุว่าพวกเขาแค่เข้าดำเนินการเคลียรพื้นที่เท่านั้น
แต่ชาวบ้านโรฮิงญาและนักเคลื่อนไหวกล่าวว่า พลเรือนหลายร้อยชีวิตถูกสังหาร แต่ก็ยังไม่สามารถตรวจสอบตัวเลขที่แน่ชัดได้ เพราะทางการจำกัดการเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์และผู้สื่อข่าว ขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมได้เผยให้เห็นบ้านเรือนหลายพันหลังถูกเผาวอด
“เรารับชาวบ้านหลายร้อยคนที่บ้านถูกเผา พวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านของเรา ซึ่งพวกเขาไม่รู้จะไปที่ไหน” ชาวบ้านในหมู่บ้านจีกันเปง กล่าว
แม้อาศัยอยู่ในพม่ามาหลายชั่วอายุคน แต่ชาวโรฮิงญาประมาณ 1 ล้านคน ถูกปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมืองของประเทศ และโรฮิงญามากกว่า 100,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ
ลี ที่อยู่ระหว่างการเยือนพม่านาน 12 วัน เพื่อประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ กำลังมุ่งความสนใจไปยังชาวโรฮิงญา ที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ โดยลีระบุว่าจะเสนอรายงานต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในเดือนมีนาคม
ระหว่างการเยือนหมู่บ้านจีกันเปง เมื่อวันอาทิตย์ (15) ลีได้พบกับประชาชนหลายร้อยคนที่อาศัยชั่วคราวอยู่ในหมู่บ้าน หลังบ้านของพวกเขาถูกเผาในปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ของทหาร
“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่เธอเดินทางมาเยือน” ชายชาวโรฮิงญารายหนึ่ง กล่าว
“มันเป็นเหมือนความหวังที่ผู้แทนสหประชาชาติมาเยือน และพบกับพวกเราในสถานการณ์เช่นนี้ แต่อีกด้านหนึ่งเราก็กังวลถึงความปลอดภัยของพวกเราที่พูดคุยกับเธอ เพราะชาวบ้านบางคนที่พูดคุยกับนักการทูตและคนต่างชาติถูกจับตัวไปเมื่อไม่นานนี้” ชายคนเดิมกล่าว
ในวันเสาร์ (14) ลีได้เยือนเรือนจำยะไข่ ที่ทางการระบุว่าได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนจากเหตุโจมตีเดือนตุลาคม ที่สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจไป 9 นาย และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเธอเข้าถึงผู้ต้องขังคนใดหรือไม่
ส่วนในวันศุกร์ (13) ลีเดินทางไปเมืองสิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ เพื่อเยี่ยมชุมชนชาวมุสลิม ที่ชาวโรฮิงญาราว 4,000 คน ถูกจำกัดขอบเขต แต่ชาวบ้านมองว่าการเยือนของลีจะช่วยปรับปรุงสถานการณ์ของพวกเขาให้ดีขึ้น