เรือบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือโรฮิงญาจากมาเลเซียถึงบังกลาเทศแล้ว

6 คนไทยร่วมขบวนเรือบรรเทาทุกข์นานาชาติจากมาเลเซียที่บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาทุกข์สำหรับชาวโรฮิงญา ที่หลบหนีการใช้ความรุนแรงทางทหารของพม่า เดินทางถึงท่าเรือในเมืองจิตตะกอง ของบังกลาเทศ วันอังคาร (14) เพียงไม่กี่วันหลังเรือลำนี้เดินทางออกจากท่าเรือในนครย่างกุ้งของพม่า

เจ้าหน้าที่อาวุโสของบังกลาเทศ และนักการทูตมาเลเซีย รวมตัวที่ท่าเรือ เมื่อเรือ Nautical Aliya เทียบท่าเมืองจิตตะกอง ซึ่งสิ่งของบรรเทาทุกข์จะถูกขนส่งไปยังค่ายชาวโรฮิงญาจากที่นี่

“เรือเข้าทอดสมอที่ท่าเรือจิตตะกอง และจะเริ่มขนถ่ายสิ่งของหลังพิธีต้อนรับเสร็จสิ้นลงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า” เจ้าหน้าที่ประจำการท่าเรือจิตตะกอง กล่าว

รถบรรทุกจะขนอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งของทางการแพทย์ต่างๆ รวมน้ำหนัก 1,472 ตัน ไปยังเมืองคอกซ์บาซาร์ ที่อยู่ห่างจากเมืองจิตตะกอง ไปทางใต้ราว 200 กิโลเมตร เพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาหลายหมื่นคน

แรกเริ่มนั้นเรือมาเลเซียมีแผนที่จะเทียบท่าที่เมืองเทคนาฟ ซึ่งอยู่ทางภาตใต้ของประเทศ ที่ชาวโรฮิงญาเกือบ 70,000 คน ได้หลบหนีจากรัฐยะไข่ของพม่า มานับตั้งแต่เดือน ตุลาคม เพื่อหลบหนีการปราบปรามที่รุนแรง

พระสงฆ์ และชาวพม่าชาตินิยมหลายสิบชีวิตชุมนุมประท้วงเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่เรือเดินทางถึงนครย่างกุ้ง โดยที่บางคนโบกธงชาติ และป้ายที่มีข้อความว่า “ไม่เอาโรฮิงญา”

พม่าปฏิเสธสิทธิความเป็นพลเมืองแก่ชาวโรฮิงญา แม้ว่าหลายคนจะอาศัยอยู่บนแผ่นดินพม่ามายาวนาน โดยเฉพาะกลุ่มชาวพุทธชาตินิยมที่คัดค้านอย่างหนัก และปฏิเสธคนเหล่านี้ โดยระบุว่าเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ

ชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนคาดว่าถูกสังหารในการปราบปรามทางทหารในรัฐยะไข่ ที่สหประชาชาติระบุว่า อาจเทียบได้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

การปฏิบัติของพม่าต่อชาวโรฮิงญาก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศ รวมทั้งจากมาเลเซีย ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ความขัดแย้งที่หาได้ยากระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แต่แรกนั้น พม่าปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เรือของมาเลเซียเข้ามาในน่านน้ำ และได้ห้ามเรือล่องขึ้นไปยังเมืองสิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ แต่ยินยอมให้เรือเข้าจอดที่ท่าเรือในนครย่างกุ้งแทน และให้ส่งความช่วยเหลือ 500 ตันโดยทางบก โดยมีเจ้าหน้าที่จากพม่า และมาเลเซียร่วมกันทำหน้าที่ในการนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่ายในพื้นที่

จากนั้นเรือ Nautical Aliya ได้เดินทางต่อมุ่งหน้าไปยังท่าเตือเมืองจิตตะกอง จากเดิมที่จะเข้าไปยังท่าเรือในเมืองเทคนาฟ แต่น้ำตื้นเกินกว่าที่เรือจะเข้าเทียบท่าได้ จึงต้องไปเทียบท่าที่ท่าเรือจิตตะกองแทนโดยห่างจากท่าเรือเทคนาฟราว 200 กิโลเมตร โดยมีพิธีต้อนรับที่ท่าเรืออย่างอบอุ่นด้วย

ทั้งนี้มีคนไทย 6 คนนำคณะโดยครูอารี อารีฟ ได้เดินทางร่วมกับคณะนักกิจกรรมนานาชาตินำความช่วยเหลือไปส่งให้ชาวโรฮิงญาด้วย

โดยการจัดส่งสิ่งของช่วยเหลือมีขึ้นไม่กี่วันหลังรายงานจากสหประชาชาติกล่าวหากองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่าก่อเหตุข่มขืน ทรมาน และสังหารหมู่ชาวโรฮิงญา และจากการสัมภาษณ์ผู้หลบหนีหลายร้อยคนในบังกลาเทศ ผู้สืบสวนกล่าวว่า การปราบปรามรุนแรงของทหารนั้นมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ความคิดเห็น

comments