พม่าตัดสินประหารชีวิตชาวโรฮิงญา หาเป็นแกนนำโจมตีด่านตรวจตำรวจ

พม่าตัดสินประหารชีวิตชายชาวโรฮิงญาด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้นำการโจมตีด่านชายแดนตำรวจ ที่นำมาซึ่งข้ออ้างของทหารในการประกาศปิดล้อมปราบปรามรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ที่ทำให้ชาวโรฮิงญาราว 1 แสนคนกลายเป็นผู้ผลัดถิ่น

คาดว่ามีชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนเสียชีวิต และราว 70,000 คนได้หลบหนีข้ามแดนเข้าไปในฝั่งบังกลาเทศขณะที่ที่กว่า 23,000 คนกลายเป็นผู้ผลัดถิ่นอยู่ในพม่า นับตั้งแต่ทหารเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างเมื่อ 4 เดือนก่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองสิตตเว ที่เป็นเมืองเอกของรัฐยะไข่ กล่าวว่า ศาลยุติธรรมของเมืองมีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิตผู้นำการโจมตีด่านชายแดนเมื่อวันศุกร์

“เขาถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ศาลเมืองสิตตเว จากความผิดฆ่าคนโดยเจตนา” เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวันประหาร

“เขามีส่วนร่วมในการโจมตี และเป็นผู้นำการโจมตี นอกจากนั้น ยังวางแผนโจมตีกับคนอื่นๆ เขาเป็นหนึ่งใน 14 ผู้โจมตีที่ถูกควบคุมตัวในเมืองสิตตเว” เจ้าหน้าที่กล่าว และอ้างว่า ชายผู้นี้ชื่อ มะมาห์นู อะกา อุลา ส่วนอีก 13 คน ที่เหลือ ถูกนำตัวขึ้นศาลเช่นกันแต่ยังไม่ถูกตัดสินโทษ

ตัน ทุน ผู้นำองค์กรช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ที่ดำเนินการอยู่ในรัฐยะไข่ ยืนยันคำตัดสินดังกล่าว โดยระบุว่า ชายผู้นี้เป็นคนแรกที่ได้รับโทษดังกล่าวนับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตี

รัฐบาลพม่ากล่าวว่า ผู้ก่อความไม่สงบชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนก่อเหตุโจมตีด่านชายแดน 3 จุด ใกล้พรมแดนบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 9 นาย เสียชีวิตในการโจมตีดังกล่าว

การตัดสินโทษมีขึ้นไม่กี่วันหลังรายงานของสหประชาชาติกล่าวหากองกำลังทหาร และตำรวจของพม่าก่อเหตุข่มขืน ทรมาน และสังหารหมู่ชาวโรฮิงญา และจากการสัมภาษณ์ผู้อพยพหลายร้อยคนในบังกลาเทศ ผู้สืบสวนกล่าวว่า การปราบปรามรุนแรงของทหารมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนยังถูกควบคุมตัว ตามรายงานของสหประชาชาติ ที่ยังอธิบายถึงวิธีที่คนเหล่านี้ถูกหวด ทุบตี ทรมาน ขาดน้ำ และอาหาร

รัฐบาลพม่าได้ให้คำมั่นที่จะสืบสวนข้อกล่าวหาต่างๆ หลังใช้เวลาหลายเดือนปฏิเสธรายงานแบบเดียวกันจากสื่อต่างชาติ และกลุ่มสิทธิมนุษยชนโดยอ้างว่าเป็นข่าวปลอม

ขณะที่มีการเผยแพร่คลิปตำรวจทำร้ายร่างกายทุบตีชาวโรฮิงญา โดยทางการพม่าได้สอบสวนเหตุดังกล่าวและลงโทษตำรวจเพียง 4 นายที่เห็นหน้าชัดเจนในคลิปโดยเป็นเพียงโทษทางวินัยในการสังกักขัง 2 เดือน โดยอ้างว่าตำรวจไม่มีเจตนาทำร้ายชาวโรอิงญา

เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นางอองซานซูจี ผู้นำพม่า ไม่ดำเนินการช่วยเหลือชาวโรฮิงญามากนักนับตั้งแต่เข้าบริหารประเทศเมื่อปีก่อน

ความคิดเห็น

comments