ทหารฟิลิปปินส์นั่งเฮลิคอปเตอร์และรถถังหุ้มเกราะต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธภายในเมืองทางใต้ในวันพฤหัสบดี (25 พฤษภาคม) มีพลเรือนเสียชีวิตอีกอย่างน้อย 9 คน
ปฎิบัติการกลุ่มติดอาวุธที่ประกาศสวามิภักดิ์กับกลุ่มดาอิช เกิดขึ้นทั่วทั้งเมืองมาราวีที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเมื่อวันอังคาร (23) ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ตอบโต้ด้วยการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วพื้นที่หนึ่งในสามทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์
ทางการระบุว่า การหยุดยั้งวิกฤตนี้ยากลำบากอย่างมากเนื่องจากกลุ่มติดอาวุธหลบซ่อนตัวในอาคารที่พักอาศัย วางระเบิดแสวงเครื่องไว้ตามถนน และจับตัวประกันชาวคาทอลิก
“ผู้คนหวาดกลัว พวกเขาไม่ต้องการเปิดกิจการร้านค้า สำนักงานถูกปิด เราไม่ต้องการให้ประชาชนถูกใช้เป็นโล่มนุษย์” มาจุล อุสมัน กันแดมรา นายกเทศมนตรีเมืองมาราวี กล่าว
เฮลิคอปเตอร์ทหารสองลำบินเหนือมาราวีและรถถังหุ้มเกราะเคลื่อนผ่านถนนในขณะที่เสียงปืนกลอัตโนมัติยังคงมีให้ได้ยินอยู่ในวันนี้ (25) อ้างจากช่างภาพเอเอฟพีในเมืองนี้
มาราวีมีผู้อยู่อาศัยราว 200,000 คน แต่พวกเขาส่วนใหญ่หลบหนีออกไปแล้วเนื่องจากการสู้รบ
ทหาร 4 นาย และตำรวจ 1 นายเสียชีวิตในการปะทะ ขณะที่กลุ่มติดอาวุธถูกสังหาร 13 คน อ้างจากกองทัพ
ทางการไม่ได้รายงานตัวเลขการเสียชีวิตของพลเรือน แต่สถานีโทรทัศน์ GMA เผยให้เห็นภาพคน 9 คนที่ถูกยิงเสียชีวิตอย่างชัดเจน เหยื่อเหล่านี้ถูกมัดมือติดกัน
พวกเขาถูกถ่ายได้ที่ด่านตรวจข้างถนนแห่งหนึ่งและถูกสังหารโดยกลุ่มติดอาวุธหลังจากถูกพบว่าเป็นชาวคริสต์ อ้างจากผู้สื่อข่าวของ GMA ที่สัมภาษณ์พยานรายหนึ่ง
เมื่อวันพุธ (24) ดูเตอร์เตกล่าวว่า ตำรวจนายหนึ่งก็ถูกจับที่ด่านตรวจของกลุ่มติดอาวุธเหมือนกันและถูกตัดศีรษะ
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทหารหลายฝ่าย มีกลุ่มติดอาวุธอยู่ประมาณ 50-100 คนเท่านั้น
กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ยังกำลังจับตัวประกันชาวคาทอลิกประมาณ 12-15 คนที่ลักพาตัวมาจากโบสถ์เอาไว้ด้วย เอ็ดวิน เดลา ปีนา บิชอบท้องถิ่นเผย
การสู้รบปะทุขึ้นเมื่อวันอังคาร (23) หลังจากกองกำลังความมั่นคงบุกบ้านหลังหนึ่งที่เชื่อว่า อิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มอาบูไซยาฟและหัวหน้าของกลุ่มดาอิชในฟิลิปปินส์กำลังซ่อนตัวอยู่
อย่างไรก็ตาม หารบุกโจมตีเกิดความผิดพลาดเนื่องจากกลุ่มติดอาวุธหลายสิบคนออกมาขับไล่กองกำลังความมั่นคง จากนั้นก็ตอบโต้ด้วยการทั่วเมืองนี้พร้อมกับโบกสะบัดธงของดาอิช
กลุ่มติดอาวุธบุกจู่โจมเรือจำสองแห่งและปลดปล่อยนักโทษมากกว่า 100 คน อ้างจาก มูจีฟ ฮาตามัน ผู้ว่าของเขตปกครองตนเองมุสลิมที่รวมถึงมาราวีด้วย
พวกเขายังจุดไฟเผาอาคารหลายแห่งด้วยรวมถึงโบสถ์และมหาวิทยาลัย
