รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษบอริส จอห์นสันกล่าวว่ารัฐบาลของระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเมืองชาวซีเรียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

คำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษมีขึ้นหลังจาก รอยเตอร์รายงานว่าเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอาวุธเคมีโลกสรุปผลสืบสวนพบว่าแก็สพิษทำลายประสาทที่ถูกใช้ในการโจมตีดินแดนทางตอนเหนือของซีเรียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนเป็นผลมาจากแก๊สพิษซาริน

หน่วยข่าวกรองชาติตะวันตกอ้างหลักฐานยืนยันว่าระบอบอัสซาดใช้แก๊สพิษโจมตีประชาชน แต่เขาปฎิเสธมาโดยตลอด ขณะที่การโจมตีด้วยอาวุธเคมียังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในซีเรีย ขณะที่แหล่งข่าวทางการแพทย์ยืนยันว่าตัวอย่างโครงสร้างแก๊สพิษซารินที่ใช้โจมตีพลเรือนซีเรีย เป็นแก๊สพิษซารินที่ผลิตขึ้นเองในซีเรีย

“ความรับผิดชอบที่แท้จริงในการใช้แก๊สพิษซาริน จะเข้าสู่กลไกการสืบสวนร่วมกันเพื่อยืนยัน แต่สำหรับผมไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นการกระทำของระบอบการปกครองของอัสซาด” บอริส จอห์นสัน กล่าวกับ Sky News

“เราจะขับเคลื่อนการตรวจสอบไปพร้อม ๆ กับการรณรงค์ในสหราชอาณาจักรเพื่อกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้ที่รับผิดชอบ … ผู้คนที่ใช้อาวุธเคมีโจมตีผู้บริสุทธิ์”

ขณะที่ก่อนหน้านี้ องค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์สวอตช์ เปิดเผยไว้ในรายงานฉบับใหม่เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ว่า กองทัพระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ใช้ก๊าซพิษทำลายประสาทในการโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเมืองข่านเชคคุน และในการโจมตีอีก 3 ครั้งเมื่อเร็วๆ นี้

ขณะที่ พล.จัตวา Zaher al-Sakat ผู้เคยทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยสงครามเคมีในกองพลทหารที่ 5 ของระบอบการปกครองบาชาร์อัล-อัสซาด ก็ออกมายืนยันเช่นกันว่า “พวกเขามีอย่างน้อย 2,000 ตัน อย่างน้อยนะ”

ความคิดเห็น

comments

By admin