ตุรกีประกาศ “เมื่อพระเจ้าอนุญาตเราจะเปิดสถานทูตที่นั่น(เยรูซาเล็ม)”

ตุรกีมีเป้าหมายที่จะเปิดสถานทูตในกรุงเยรูซาเล็มตะวันออก ตามการเปิดเผยของประธานาธิบดี รอยับ ตอยยิบ ออโดกันหลังจากก่อนหน้านี้ได้เรียกร้องให้ชาติมุสลิมร่วมกันผลักกันให้ชาติต่างๆ ในโลกยอมรับเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงปาเลสไตน์

The Guardian การประชุมกลุ่มประเทศความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC หลังคำประกาศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการประกาศที่ขัดต่อมติของสหประชาชาติ และที่ประชุม OIC ยังได้มีมติให้การรับรองกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์

ออโดกันกล่าวในตอนหนึ่งของสุนทรพจน์กับสมาชิกพรรค AK ในจังหวัด Karaman ทางตอนใต้ของตุรกี สถานกงสุลใหญ่ตุรกีประจำกรุงเยรูซาเล็มจะเปลี่ยนเป็นสถานเอกอัคราชทูต

“ด้วยประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าในวันนี้อันใกล้นี้ เมื่อพระเจ้าอนุญาตเราจะเปิดสถานทูตของเราที่นั่น” ออโดกันกล่าว

ไม่ชัดเจนว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรขณะที่อิสราเอลยังคงยึดครองกรุงเยรูซาเล็ม และเรียกเมืองนี้ว่าเมืองหลวงของตนไม่สามารถแบ่งแยกได้ ชาวปาเลสไตน์ต้องการให้เยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคตซึ่งถูกอิสราเอลยึดครองไปตั้งแต่ปี 1967 แต่ไม่ได้รับการยอมรับนานาชาติ

กรุงเยรูซาเล็มซึ่งเป็นที่นับถือของชาวยิว, คริสเตียน และชาวมุสลิม โดยเป็นที่ตั้งของมัสยิดสำคัญลำดับที่ 3 ของศาสนาอิสลาม

สถานทูตต่างประเทศในอิสราเอลรวมทั้งของตุรกี ตั้งอยู่ในกรุงเทลอาวีฟ สะท้อนถึงสถานะที่ยังไม่ได้แก้ไขของกรุงเยรูซาเล็มที่ไม่มีชาติใดยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

แถลงการณ์ร่วมที่ออกหลังจากการประชุม OIC ที่มีสมาชิก 57 ประเทศ รวมทั้งพันธมิตรสหรัฐฯ มีความเห็นตรงกันว่าการประกาศของสหรัฐฯ ในการรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์ ทำให้สหรัฐฯ อเมริกาได้ถอนตัวออกจากการเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์ – อิสราเอล แล้ว

ความคิดเห็น

comments