เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกาชาตสากลเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่(26 ตุลาคม)ผ่านมาหลังจากที่ได้เดินทางเข้าเยือนอดีตดินแดนฆุตเฎาะห์ตะวันออกที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายต่อต้านซีเรียใกล้กรุงดามัสกัส ถูกทำลายอย่างหนัก
อาหรับนิวส์ รายงานว่า Dominik Stillhart ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของคณะกรรมการกาชาดสากลกล่าวว่าขนาดของความหายนะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องอีก 6 เดือน แม้การสู้รบจะสิ้นสุดลงแล้ว
“ผมรู้สึกมันหนักหนาจริงๆ จากระดับการทำลายล้างที่เราพบในฆุตเฎาะห์ตะวันออก ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” เขาบอกกับนักข่าวในกรุงเบรุต
หลังจากบาชาร์ อัล-อัสซาด ตั้งเป้าหมายที่จะยึดครองดินแดนฆุตเฎาะห์ตะวันออกเนื่องจากการปรากฏตัวของนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียใกล้กับเมืองหลวงเพื่อดูหมิ่นกับอำนาจของเขา
กองทัพรัสเซียที่ได้เปิดการโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ในดินแดนฆุตเฎาะห์ตะวันออกที่ถูกปิดล้อมจนทำให้มีพลเรือนมากกว่า 1,700 คนถูกสังหาร
ผู้คนนับหมื่นนับพันหนีไปเมื่อเมืองต่างๆ ภายใต้วงล้อมยอมจำนนต่อการโจมตี
เมื่อพวกเขาได้กลับมายังพื้นที่บ้านเกิด แต่โครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายเสียหาย ความกลัวในการถูกจับกุม และความเสี่ยงที่เกิดจากอาวุธยุทโทรปกรณ์ที่ตกค้าง และยังไม่ระเบิด ทำให้พวกเขาอยู่ไม่ได้
Stillhart กล่าวว่า “ในบางพื้นที่ เช่น Harasta ซึ่งมีความเสียหายถึง 90% ของโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
“มันน่าทึ่งมากที่ระดับของการทำลายที่นั่น”
เขากล่าวว่าเขาเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง และประชาชนอีก 4 คน รักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลของ Kafr Batna ในฆุตเฎาะห์ตะวันออก
“แสงเพียงอย่างเดียวที่พวกเขาได้รับคือไฟแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ” เขากล่าว
“นี่เป็นเงื่อนไขที่คุณคาดว่าจะได้เห็นในช่วงความขัดแย้ง แต่มันยังคงเกิดขึ้นแม้ผ่านมาแล้ว 6 เดือนหลังความขัดแย้ง”
แฟ้มภาพ