ผู้โดยสารกว่า 250 ชีวิต บนเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบิน ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ต้องติดอยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานานราว 16 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัดจนประตูเครื่องบินราวถูกแช่แข็งจนปิดไม่ได้ ภายในสนามบินกูสเบย์ บนเกาะนิวฟันด์แลนด์ นอกชายฝั่งทางตะวันออกของแคนาดา ท่ามกลางภูมิอากาศแบบกึ่งขั้วโลก (sub-Arctic) -30 องศาเซลเซียส ตามรายงานของสำนักข่าว CBC แคนาดา
ยูไนเต็ด แอร์ไลน์เที่ยวบิน 179 มีต้นทางจากเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา มุ่งหน้าสู่ฮ่องกง ระยะทางกว่า 12,800 กิโลเมตร เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินด้วยเหตุผลทางการแพทย์ หลังจากผู้โดยสารคนหนึ่งป่วย กัปตันตัดสินใจนำเครื่องลงจอดที่สนามบิน กูสเบย์ ทางชายฝั่งตะวันออกของแคนาดา แต่ด้วยอากาศเย็นจัดส่งผลให้เกิดเหตุ “ประตูเครื่องบินราวถูกแช่แข็ง” ทำให้เครื่องบินต้องล่าช้าออกไปอีก 13 ชั่วโมง หลังจากล่าช้าในช่วงลงจอดฉุกเฉินไปแล้วราว 3 ชั่วโมงครึ่งในช่วงแรก
ขณะที่ผู้ป่วยถูกส่งตัวต่อโดยเครื่องบินไปยังฐานทัพห่างไกลในนิวฟันด์แลนด์ ของแคนาดา แต่ผู้โดยสารที่เหลือไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ และไม่สามารถลงจากเครื่องบินได้ เนื่องจากสนามบินไม่มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำสนามบินในช่วงกลางคืน
เครื่องบินจอดนิ่งในสนามบินท่ามกลางอากาศหนาวเย็นจัด และประตูเครื่องบินที่แข็งส่งผลให้อุณหภูมิในเครื่องบินลดลงไปอยู่ในระดับที่อึดอัด
ซอนเจย์ ดัทท์ นักมวยปล้ำอาชีพที่เป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปโชว์ตัวที่ฮ่องกง ระบุว่าเจ้าหน้าที่เริ่มแจกผ้าห่ม แต่ผู้โดยสารเริ่มโกรธ
“มันเป็นวันที่ยาวนานยาวนานและยาวนาน” เขากล่าวในภายหลังทางทวีตเตอร์
สายการบินส่งเครื่องบินลำใหม่มาทดแทนสำหรับการเดินทาง แต่ผู้โดยสารกลับต้องนั่งรถบัสไปสนามบินอื่นแทน ทำให้เครื่องบินลำใหม่จึงต้องบินกลับสนามบินต้นทางที่เมืองนวร์ก ตอน 16.00 น. วันอาทิตย์
ทางสายการบินแถลงขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าตอนแรกลงจอดฉุกเฉินเพราะมีผู้โดยสารป่วยเท่านั้น แต่ก็เกิดปัญหาประตูเครื่องบินแช่แข็งทำให้กัปตันนำเครื่องออกบินไม่ได้