เมื่อเสาร์ (2 มีนาคม) พรรครัฐบาลมาเลเซีย จากพรรคปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan) แพ้การเลือกตั้งซ่อมในเขตเซเมนยีฮ์( Semenyih) รัฐสลังงอร์ ถือเป็นหนึ่งในตัวชี้ความนิยมของดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่กำลังตกลง
รอยเตอร์รายงานวันอาทิตย์(3) ว่า ในเดือนพฤษภาคม ปี 2018 ทางกลุ่มพรรคพันธมิตรแห่งความหวัง หรือ พรรคปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan) ซึ่งเป็นการรวมตัวจาก 3 พรรคอดีตฝ่ายค้านของมหาเธร์ โมฮัมหมัด ชนะเลือกตั้ง แต่ทว่าหลังจากนั้น ส.ส.เขตเซเมนยีฮ์(Semenyih) รัฐสลังงอร์ เสียชีวิตเมื่อมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
โดยพรรครัฐบาลของมหาเธร์เจ้าของพื้นที่เดิมแพ้ไป 1,914 เสียง และพบว่าผู้ชนะเป็นสมาชิกจากพรรคบาริ-ซาน นาซิโอนาล หรือบีเอ็น (Barisan Nasional) ที่รู้จักในนามกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ อดีตพรรครัฐบาลมาเลเซีย ที่แพ้เลือกตั้งครั้งแรกปีที่ผ่านมาหลังจากอยู่ในอำนาจมาอย่างยาวนานถึง 60 ปี
การพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีมหาเธร์
โดยทางกลุ่มพันธมิตรถูกตั้งคำถามถึงคำสัญญาที่จะทำการปฎิรูปอย่างรวดเร็ว การปกป้องศาสนาอิสลาม และปกป้องสิทธิของชนกลุ่มใหญ่ในประเทศมาเลเซียที่มีหลายชนเผ่าอาศัยอยู่ร่วมกัน
ทั้งนี้พบว่า กลุ่มพันธมิตรความหวังใหม่ของมหาเธร์ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เมื่อพฤษภาคม 2018 โดยได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ชาวมาเลย์เชื้อสายจีนและชาวมาเลย์เชื้อสายอินเดียซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย แต่ก็มีคะแนนเสียงการเลือกตั้งเพียงแค่ 30% เท่านั้นตามรายงานของศูนย์โพลอิสระ Merdeka Center
ซึ่งศูนย์โพลได้เผยแพร่ออกมานับตั้งแต่มีแนวโน้มให้เห็นว่า พรรคพันธมิตรรัฐบาลจะเสียการสนับสนุนในหมู่ประชาชนชาวมาเลย์ ท่ามกลางความวิตกว่า นโยบายที่เคยสนับสนุนคนเหล่านั้นด้านธุรกิจ การศึกษา และการมีที่อยู่จะไม่มีอยู่อีกต่อไป
ในภาวะที่คะแนนนิยมของดร.มหาเธร์กำลังตกต่ำ สวนทางกับคะแนนนิยมของอดีตนายกรัฐมตรี นาจิบ รอซัค อดีตผู้นำพรรบาริ-ซาน นาซิโอนาล ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากโซเชียลมีเดีย