นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า บุหรี่เป็นสิ่งต้องห้ามหรือฮารอมตามที่จุฬาราชมนตรีได้วินิจฉัยไว้ จึงขอให้ชาวไทยมุสลิมร่วมกันรณรงค์เลิกบุหรี่ในช่วงเดือนรอมฎอนเดือนอันประเสริฐ โดยเฉพาะผู้นำศาสนาได้เป็นตัวอย่างในการงดสูบบุหรี่ในช่วงเดือนรอมฎอนและเป็นจุดเริ่มต้นของการ ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่งได้ตลอดไป และขอให้คณะกรรมการมัสยิด ดูแลไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในมัสยิด เนื่องจากการสูบบุหรี่ในมัสยิดเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ยังจะเป็นการทำร้ายคนรอบข้างด้วย และเนื่องจากเดือนรอมฎอนเป็นเดือนต้องห้ามการสูบบุหรี่ในเวลากลางวันอยู่แล้ว จึงขอให้ทุกท่านเริ่มต้นหยุดสูบบุหรี่ในช่วงรอมฎอนอันประเสริฐนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันดีในการ ลด ละ เลิก เพื่อสุขภาพที่ดีของท่านและคนรอบข้างตลอดไป ถือเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิมที่ควรปฏิบัติตนตามหลักศาสนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและครอบครัว และมัสยิดเป็นสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535
สาธารณสุขอำเภอเบตง จังหวัดยะลา รณรงค์เลิกบุหรี่ในช่วงเดือนรอมฎอนเดือนอันประเสริฐ เป็นจุดเริ่มต้นของการ ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ พร้อมขอความรวมมือห้ามสูบบุหรี่ในมัสยิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535
ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 19 เขตปลอดบุหรี่ 11 กลุ่มสถานที่ ประกอบด้วย
1.สถานบริการสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา สปา ,
2.สถานศึกษา ,
3.สถานที่สาธารณะที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น สนามกีฬา สระว่ายน้ำ ,
4.ร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่ให้บริการอินเทอร์เน็ต ,
5.สถานที่พักอาศัย โรงแรม อาคารชุด ,
6.สถานที่ให้บริการทั่วไป เช่น ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส ร้านเสริมความงาม ร้านตัดผม ,
7.สถานที่ทำงาน เช่น สถานที่ราชการ ที่ทำงานเอกชน ธนาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ,
8.สถานที่สาธารณะทั่วไป เช่น ตลาด สวนสาธารณะ สุขาสาธารณะ สวนสัตว์ สนามเด็กเล่น ,
9.ศาสนสถาน เช่น วัด โบสถ์ มัสยิด ,
10.สถานีขนส่งทุกประเภท
และ 11.ยานพาหนะทุกประเภท
ที่มา : สวท.เบตง จ.ยะลา