มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 26 คนเมื่อวันพุธที่(12 มิถุนายน)ผ่านมาเมื่อมีขีปนาวุธของกลุ่มกบฎชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ จากเยเมนพุ่งเป้าโจมตีสนามบินนานาชาติ Abha ในซาอุดิอาระเบีย
กลุ่มพันธมิตรอาหรับที่ต่อสู้เพื่อสนับสนุนรัฐบาลเยเมนสาบานว่าจะตอบโต้อย่างมั่นคงและกล่าวว่าการโจมตีครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายข้ามพรมแดน
การจู่โจมเกิดขึ้นในช่วงกลางดึกราว 2.21 น. เมื่อขีปนาวุธพุ่งเป้าโจมตีส่วนผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินในจังหวัด Asir
พันธมิตรอาหรับกล่าวว่าผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นพลเรือนที่มีสัญชาติต่างกันรวมถึงเด็กซาอุฯ สองคนและผู้หญิงสามคนที่ประกอบด้วยชาวซาอุดิ, เยเมน และอินเดีย
ผู้บาดเจ็บ 8 คนถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาอาการบาดเจ็บปานกลางในขณะที่ 18 คนได้รับการรักษาเบื้องต้นที่สนามบินจากการบาดเจ็บเล็กน้อย
หัวหน้างานทั่วไปของโรงพยาบาล Asir Central บอกกับสำนักข่าว Al Ekhbariya ว่าผู้ป่วยทุกคนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น.
ส่วนหนึ่งของห้องรับรองของสนามบินได้รับความเสียหาย แต่ภาพจากโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่าผู้โดยสารเข้าคิวรออยู่ที่สนามบินในขณะที่สนามบินกลับมาให้บริการปกติ
โฆษกรัฐกองกำลังพันธมิตร พ.อ. Turki Al-Maliki กล่าวว่ากองกำลังทหาร และกองกำลังรักษาความปลอดภัยกำลังทำงานเพื่อกำหนดประเภทของ “กระสุนปืนศัตรู” ที่ใช้ในการโจมตี
กลุ่มกบฎชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ก่อเหตุยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกเข้าสู่ซาอุดิอาระเบีย จากเยเมนไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ข้ามชายแดน หรือขีปนาวุธพิสัยไกลที่กำหนดเป้าหมายไปยังเมืองหลักของซาอุดิอาระเบีย รวมถึงขีปนาวุธที่พุ่งเป้าโจมตีมหานครมักกะห์ในเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาด้วย
ซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรชี้ว่าอิหร่านเป็นผู้จัดหาขีปนาวุธ และจรวจให้กับกบฎชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์
ยิงพบว่าขีปนาวุธที่กลุ่มกบฎฮูธีย์ใช้บินที่ระดับต่ำเพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ ยิ่งเป็นการเพิ่มความกังวลว่าอิหร่านกำลังจัดหาอาวุธที่มีความซับซ้อนมากขึ้นให้กับกลุ่มกบฎฮูธีย์
การโจมตี “พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ก่อการร้ายมีอาวุธพิเศษชนิดใหม่ และเป็นความต่อเนื่องของระบอบการปกครองของอิหร่าน และการปฏิบัติการก่อการร้ายข้ามพรมแดน” อัลมาลิกีกล่าว
เขากล่าวว่าการโจมตีอาจเป็นสาเหตุของอาชญากรรมสงคราม และพันธมิตรจะใช้มาตรการ “เร่งด่วนและทันเวลา” ในการตอบสนอง
เขาบอกกับอัลอาราบียะห์ว่าหลักฐานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ากองกำลังปฏิวัติอิสลามของอิหร่านส่งมอบอาวุธทำลายล้างสูงที่มุ่งเป้าไปที่สนามบินของซาอุดิอาระเบีย
ด้านโฆษกกลุ่มกบฎชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ ออกมาขู่เมื่อวันอังคารว่า จะโจมตีทุกสนามบินในซาอุดิอาระเบีย และว่าบอกว่าจะเป็น “big surprises”
เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าการดำเนินงานของสนามบิน และการจราจรทางอากาศกลับสู่ปกติ
ผู้โดยสารหลายพันคนผ่านสนามบิน Abha ทุกวัน
รัฐบาลเยเมนกล่าวว่ามีเพียงปฏิบัติการทางทหารเท่านั้นที่จะยุติ “การก่อการร้าย” ของกองกำลังฮูธีย์ได้
ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ UAE ซึ่งเป็นสมาชิกกองกำลังพันธมิตรกล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการพิสูจน์ความก้าวร้าวของกบฎฮูธีย์ และความมุ่งมั่นที่จะบ่อนทำลายความมั่นคงในภูมิภาค
ด้านชีคคอลิด บินอะเหม็ด อัลคอลิฟา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของบะห์เรนกล่าวว่า “การโจมตีสนามบิน Abha เป็นการกระทำที่เป็นการก่อการร้าย และการเพิ่มการใช้อาวุธร้ายแรงจากอิหร่าน”
ปาเลสไตน์, จอร์แดน, คูเวต, อียิปต์ และจิบูตีก็ได้ประณามการโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อเป้าหมายสนามบินพลเรือนด้วย
การโจมตีดังต่อไปนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีด้วยโดรนติดอาวุธเมื่อเดือนที่แล้วที่สถานีสูบน้ำมัน 2 แห่งในซาอุดิอาระเบีย โดยเชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว
เมื่อเดือนที่ผ่านมากลุ่มกบฎชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ได้เพิ่มการโจมตีหลังจากที่ปฎิเสธเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพของสหประชาชาติ ทำให้กลุ่มพันธมิตรตัดสินใจตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายเมือง Sanaa ที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มกบฎฮูธีย์