“ความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์” ครั้งนี้เปิดทางไปสู่ “เสรีภาพ” ของแคชเมียร์ นายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าว
กัฟนิวส์รายงานว่า อิมราน ข่านนายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าวเมื่อวันจันทร์(25 สิงหาคม)ว่านายนเรนทรา โมดินายกรัฐมนตรีอินเดีย ทำ “ความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์” ในการเพิกถอนสถานะพิเศษสำหรับจัมมูและแคชเมียร์ และในการทำเช่นนั้นเขาได้เปิดทางสู่ “เสรีภาพ” ของแคชเมียร์
“เราชนะการเจรจาต่อรองในระดับนานาชาติเราได้ทำให้ประเด็นแคชเมียร์เป็นการพูดคุยในระดับสากล ระดับการทูต ผู้นำประเทศ และในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกประชุมกรณีแคชเมียร์ขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีพ. ศ. 2508 เพื่อรายงาน และผลกระทบกับสิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุด”
เขากล่าวว่าการยกเลิกมาตรา 370 ซึ่งเป็นการทำลายสถานะพิเศษของแคชเมียร์ทำให้มีข้อความหมายว่าอินเดียเป็นเพียงรัฐฮินดูเท่านั้น เขาบอกว่าโลกกำลังรออย่างใจจดใจจ่อที่จะค้นหาความจริงเมื่อเคอร์ฟิวถูกยกเลิก
‘ออกจากบ้านเพื่อแสดงความเป็นปึกแผ่น’
ในคำปราศรัยที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศของนายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าวว่าทั้งประเทศและรัฐบาลดำเนินการเพื่อสนับสนุนชาวแคชเมียร์
“เราจะไปทุกหนทุกแห่งจะยืนเคียงข้างแคชเมียร์จนถึงลมหายใจสุดท้าย” เขากล่าวเสริม “ผมขอให้ชาวปากีสถานทุกคนออกจากบ้าน สำนักงาน ที่ทำงาน ทุกสัปดาห์ ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงและวันศุกร์ที่จะมาถึงเวลา 12.00 ถึง 12.30 เราจะออกมาแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพี่น้องในแคชเมียร์ “
ความสัมพันธ์ที่สงบสุข กับส่วนหนึ่งของนโยบายเพื่อนบ้าน
เขาบอกว่ามันเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะมีความสัมพันธ์ที่สงบสุขกับประเทศอื่น ๆ รวมถึงอินเดีย และอัฟกานิสถาน
“ผมบอกอินเดียว่าเราจะก้าวไปข้างหน้าในขั้นตอนที่สองถ้าพวกเขาดำเนินการในประเด็นหลักของเราคือแคชเมียร์ แต่ทุกครั้งที่เราพูดคุยกับอินเดียพวกเขาพยายามเลี่ยงที่จะคุยเรื่องนี้”
เขาบอกว่ารัฐบาลของเขาเข้ามามีอำนาจด้วยความมุ่งมั่นที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นนั้นมีความสำคัญยิ่งต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนจากความยากจน การว่างงาน และการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อม แต่การเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพของปากีสถานทุกครั้งที่มีต่ออินเดีย เราต้องผิดหวังกับข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงเขากล่าว
หลังจากเหตุการณ์ Pulwama และอินเดียขึ้นบัญชีดำของปากีสถานผ่านแผนกปฏิบัติการทางการเงิน (FATF) รัฐบาลของเขาได้ตัดสินใจที่จะไม่เจรจากับอินเดียอีกต่อไป
เขาบอกว่าทั้งปากีสถานและอินเดียเป็นประเทศนิวเคลียร์ “ไม่มีใครจะชนะในสงครามนิวเคลียร์ แต่ผลกระทบของมันจะเกิดขึ้นทั่วโลก”
จะยกประเด็นแคชเมียร์ที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ข่านกล่าวว่าเขาจะยกประเด็นแคชเมียร์ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในวันที่ 27 กันยายนและพบกับผู้นำระดับโลกในนิวยอร์ก
“เป็นครั้งแรกที่ผมเชื่อว่าคนทั้งชาติจะยืนอยู่กับชาวแคชเมียร์ ‘awam’ ผมได้กล่าวว่า ผมจะทำหน้าที่เป็นทูตของแคชเมียร์ ผมจะยกประเด็นนี้กับผู้นำประเทศ และสื่อต่างประเทศ ผมจะบอกพวกเขาว่าเรื่องนี้ ( Modi) ไม่ใช่รัฐบาลธรรมดา แต่เป็นรัฐบาลที่มีอุดมการณ์ที่อันตราย” เขากล่าว
ข่านกล่าวว่า: “ผมอ่านข่าวพบว่าผู้คนรู้สึกผิดหวังที่ประเทศมุสลิมไม่ได้เข้าข้างแคชเมียร์ ผมต้องการบอกคุณว่าไม่ต้องผิดหวังถ้าบางประเทศที่ไม่ยกประเด็นนี้ขึ้นเพราะผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องให้ทางออกกับพวกเขา”
“สื่อตะวันตกไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์อินเดียมากเท่ากับตอนนี้ ผมต้องการบอกคนแคชเมียร์ว่าโลกจะอยู่กับพวกเขา หรืออย่าน้อยปากีสถานจะอยู่กับคุณ” เขากล่าว
คำปราศรัยของเขาเกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์พบกับโมดิในการประชุม G7 ในฝรั่งเศส และผู้นำอินเดียบอกว่าสถานการณ์แคชเมียร์นั้น “อยู่ภายใต้การควบคุม” และเพื่อนบ้านทั้งสองสามารถจัดการปัญหาด้วยตนเองได้