AFP รายงานว่ากลุ่มมุสลิม 2 กลุ่ม เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์(17 พฤศจิกายน)ว่าพวกเขาจะยื่นคำร้องต่อศาลสูงของอินเดีย หลังมีคำตัดสินของศาลให้กลุ่มฮินดูได้ครอบครองพื้นที่ตั้งมัสยิดบาบารีย์ มัสยิดเก่าแก่กว่า 460 ปีที่ถูกกลุ่มฮินดูหัวรุนแรงบุกทำลาย
ศาลฎีกาอินเดียตัดสินเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนว่าสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของมัสยิดบาบารีย์ในอโยธยาซึ่งกลุ่มชาวฮินดูทำลายในปี 2535 ให้เป็นพื้นที่ก่อสร้างวัดฮินดู
และในคำพิพากษายังได้มีการมอบที่ดินทดแทนในพื้นที่อื่นของอโยธยาให้กับกลุ่มมุสลิมเพื่อสร้างมัสยิดใหม่
แต่ All India Muslim Personal Law Board (AIMPLB) และ the Muslim scholar organisation Jamiat Ulama-i-Hind ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคู่ขัดแย้งในคดีที่ศาลตัดสินไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พวกเขาจะโต้แย้งการตัดสิน
AIMPLB “จะยื่นคำร้องขอตรวจทานในคดีมัสยิดบาบารีย์ #BabriMasjid เนื่องจากข้อผิดพลาดที่ชัดเจนในคำตัดสินของศาลสูงสุด” ตามข้อความในเมื่อวันอาทิตย์
Arshad Madani ประธาน Jamiat Ulama-i-Hind กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “มันไม่ใช่ปัญหาศักดิ์ศรีนี่เป็นเรื่องของชารีอะห์ (กฎหมายอิสลาม) เราไม่สามารถมอบมัสยิด หรือสร้างอะไรมาแทนได้” เครือข่ายสื่อ News18 รายงานวันอาทิตย์
ศาลฎีกามักปฏิเสธการยื่นคัดค้านคำตัดสินเป็นประจำ และแหล่งข่าวของ AIMPLB ก็บอกกับ News18 ว่าพวกเขายอมรับว่าพวกเขาอาจถูกยกคำร้องได้
AIMPLB กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในนามของชุมชนมุสลิมเราปฏิเสธที่จะยอมรับ … ที่ดิน ตามคำตัดสินของศาล” สื่ออินเดียรายงาน
คณะกรรมการกลางกลุ่มมุสลิมอุตตรประเทศ กล่าวว่าพวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยอมรับที่ดินหรือไม่ สื่อท้องถิ่นรายงาน
คำตัดสินของศาลสูงเกิดขึ้นหลังจากการพิจารณาคดีในปี 2010 ชี้ว่าพื้นที่ควรถูกแบ่งออก – 2 ใน 3 โดย 2 ส่วนควบคุมโดยฮินดู และมุสลิมควบคุมส่วนที่เหลือ แต่คำตัดสินดังกล่าวถูกโต้แย้งโดยทั้งสองฝ่ายทำให้เกิดการแย่งชิงทางกฎหมายที่ยาวนาน