โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวเมื่อวันพุธ(4 พฤษภาคม)ว่าทหารรับจ้างชาวอิสราเอลกำลังต่อสู้เคียงข้างกับกลุ่มนีโอนาซี (Azov) กลุ่มหัวรุนแรงในยูเครน ทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นกับอิสราเอลหลังจากที่รัสเซียออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์มี “เชื้อสายยิว”
“ทหารรับจ้างชาวอิสราเอลร่วมต่อสู้แทบจะเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มติดอาวุธ Azov ในยูเครน” มาเรีย ซาคาโรวา บอกกับสถานีข่าวสปุตนิก
Azov มีชื่อเสียงขึ้นในปี 2014 เมื่อนักเคลื่อนไหวจากขวาจัดจับอาวุธเพื่อต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียในภูมิภาค Donbas ทางตะวันออกของยูเครน แต่ตั้งแต่นั้นมากลุ่มนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน
พวกเขาต่อสู้เคียงข้างกับกองทัพยูเครนเพื่อต่อต้านกองทัพรัสเซีย ซึ่งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ได้เริ่มปฏิบัติการทางทหารในประเทศที่สนับสนุนตะวันตกอย่างยูเครน
สมาชิกของกลุ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มต่อต้านนักรบในเมืองท่ามาริอูโปล ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในโรงงานเหล็ก Azovstal ซึ่งกองกำลังรัสเซียเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่เมื่อวันอังคาร
การออกมาบอกว่านักรบอิสราเอลกำลังต่อสู้เคียงข้าง Azov ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็น “ฟาสซิสต์” และ “นาซี” ส่งผลให้ความตึงเครียดที่เริ่มต้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย Sergei Lavrov กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าฮิตเลอร์มี “เชื้อสายยิว” มีความรุนแรงขึ้น
คำพูดของเขาจุดชนวนให้เกิดความโกรธเคืองในอิสราเอล ซึ่งเรียกคำกล่าวนี้ว่า “ยกโทษให้ไม่ได้และน่ารังเกียจ” และ “ความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์อย่างมหันต์”
กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียกล่าวเมื่อวันอังคารว่าอิสราเอลสนับสนุน “ระบอบนีโอนาซีในเคียฟ” ในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน มีเชื้อสายยิว
ขณะที่ The Times of Israel อธิบายเพิ่มเติมว่า โฆษกหญิงของรัสเซียดูเหมือนจะหมายถึงชาวอิสราเอลที่เกิดในยูเครน และชาวอิสราเอลพื้นเมืองที่เดินทางไปยูเครนเพื่อเข้าร่วมหน่วยอาสาสมัครหลังจากการรุกรานของรัสเซีย เชื่อกันว่ามีอาสาสมัครชาวอิสราเอลหลายร้อยคนในยูเครน แต่ไม่มีตัวเลขที่แน่นอน
ด้านที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี Zelensky กล่าว เมื่อวันอังคารกับ The Times of Israel ว่าความ คิดเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียนั้นเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ามอสโกเป็นภัยคุกคามต่อชาวยิวทุกที่


