ชาวบังกลาเทศหลายร้อยคนติดอยู่ในค่ายชั่วคราวที่คับแคบขณะรอการอพยพออกจากซูดาน กำลังขาดแคลนอาหารและน้ำ และยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะถูกนำไปยังที่ปลอดภัยเมื่อใด
ชาวบังกลาเทศเป็นหนึ่งในชาวต่างชาติหลายพันคนที่พยายามหลบหนีออกจากซูดาน นับตั้งแต่การสู้รบรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน ระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหาร
การอพยพจำนวนมากเริ่มขึ้นในวันที่ 24 เมษายน เมื่อฝ่ายที่ทำสงครามประกาศหยุดยิง
ในขณะที่ชาวบังกลาเทศบางส่วนได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย แต่อีกประมาณ 750 คนจากที่ลงทะเบียนเพื่ออพยพโดยรัฐบาลบังกลาเทศ ยังต้องรอหนึ่งสัปดาห์จนกว่าพวกเขาจะถูกย้ายจากคาร์ทูมเมืองหลวงของซูดานไปยังพอร์ตซูดานเพื่อออกทะเลไปยังซาอุดีอาระเบีย
แต่สำหรับกลุ่มที่กำลังรอขึ้นเรือไปยังเจดดะห์ตั้งแต่วันอังคาร แต่วันเวลาผ่านไป ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเดินทางเมื่อใด
โมฮัมเหม็ด บาฮาดูร์ หนึ่งในผู้อพยพซึ่งทำงานในโรงงานในเมืองคาร์ทูม บอกกับอาหรับนิวส์ทางโทรศัพท์จากพอร์ตซูดานว่าเสบียงอาหารใกล้หมด และลูกๆ รวมทั้งลูกสาววัย 18 เดือนของเขาก็ล้มป่วยแล้ว
“เรามีน้ำดื่มไม่เพียงพอ เราจะสามารถซื้อน้ำได้มากแค่ไหน? เราไม่สามารถจัดการน้ำดื่มได้เพียงพอ นับประสาอะไรกับอาบน้ำ” เขากล่าว
“ผมไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร? เด็กๆ ก็ป่วยเพราะยุงกัดเช่นกัน เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ที่มียุงมาก”
โมฮัมเหม็ด บาฮาดูร์ กล่าวอีกว่าเขาไม่รู้ว่าผู้อพยพจะยังคงติดอยู่ในค่ายอีกนานแค่ไหน
“เมื่อเรามารอที่นี่ ทุกวันเราจะได้ยินข่าวว่าเราจะได้เรือเร็ว ๆ นี้ แต่มันไม่เกิดขึ้น” เขากล่าว
อานิซูร์ เราะห์มาน ซึ่งทำงานเป็นผู้จัดการในคาร์ทูมและเป็นประธานสภามิตรภาพบังกลาเทศ-ซูดาน กล่าวว่า ทุกคนอดทนในวันแรก แต่สภาพที่เลวร้ายยิ่งยากจะทน
“เรากำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงที่นี่ สงครามเริ่มขึ้นในกลางเดือนเมษายน ผู้คนเคยซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ แม้ว่าจะมีราคาสูงขึ้นถึง 10 เท่าตอนที่ยังอยู่ในคาร์ทูมก็ตาม” เขากล่าว
“เมื่อพวกเขามาถึงพอร์ต ซูดาน พวกเขามามือเปล่าเพราะไม่ได้รับเงินเดือน พวกเขาไม่สามารถซื้ออาหารได้แม้ว่าจะมีอยู่ก็ตาม คนส่วนใหญ่มาถึงที่นี่โดยไม่มีสิ่งของใดๆ เนื่องจากทุกอย่างถูกปล้นในคาร์ทูม”
สภาพสุขอนามัยก็ยากลำบากเช่นกัน ในขณะที่ผู้หญิงและเด็กถูกแยกออกจากกลุ่มหลัก ผู้ชายประมาณ 700 คนใช้ห้องสุขาร่วมกัน
“มีห้องน้ำเพียงห้องเดียวซึ่งจัดการโดยมัสยิด” เราะห์มานกล่าวอีกว่า “ทุกขณะมีคิวยาว 50-60 คนอยู่ข้างหน้า”
ชาวบังกลาเทศพักอยู่ที่โรงเรียนและนอนบนพื้นในห้องเรียนที่คับแคบ
เราะห์มานบอกกับอาหรับนิวส์ว่า เมื่อเห็นสภาพการณ์ดังกล่าว ชาวซูดานบางส่วนได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยมีนักธุรกิจรายหนึ่งซื้อเต็นท์ให้กับผู้อพยพ และองค์กรช่วยเหลือในท้องถิ่นนำอาหารมาให้เพิ่มเติม
สมาชิกของภารกิจของรัฐบาลบังคลาเทศที่ดูแลผู้อพยพไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้
อย่างไรก็ตาม Shah Mohammad Tanvir Monsur ผู้อำนวยการกองกงสุลและสวัสดิการของกระทรวงการต่างประเทศบังกลาเทศ บอกกับอาหรับนิวส์ ว่ายังไม่มีการยืนยันว่าชาวบังกลาเทศกลุ่มแรกจะออกจากพอร์ตซูดานได้เมื่อใด
“เอกอัครราชทูตของเราในซูดานได้รับการขอร้องให้ทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อพยพ” เขากล่าว
“แต่เขาก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เนื่องจากเป็นสถานการณ์การต่อสู้”
