องค์การการท่องเที่ยวโลกของสหประชาชาติ (UNWTO) และสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ยกย่องซาอุดีอาระเบียสำหรับ “ความสำเร็จอันน่าทึ่ง” ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 100 ล้านคนในปี 2023 ตามคำแถลงที่ออกโดยกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียได้บรรลุเป้าหมายปี 2030 ล่วงหน้า 7 ปี โดยวางตำแหน่งซาอุดีอาระเบียให้เป็น “มหาอำนาจด้านการท่องเที่ยวระดับโลกที่กำลังเติบโต” จากความสำเร็จนี้ ประเทศนี้ตั้งเป้าที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวน 150 ล้านคนภายในปี 2030
กระทรวงเปิดเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 106.2 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 จากปี 2019 และเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นร้อยละ 12 จากปี 2022 นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวน 27.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 56 จากปี 2019 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับปี 2022
“ความสำเร็จของซาอุดีอาระเบียในการต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 100 ล้านคนในปี 2023 ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสิ่งที่เป็นไปได้ผ่านความร่วมมือ นวัตกรรม และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคต” UNWTO กล่าวในแถลงการณ์
“ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียยังคงขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 150 ล้านคนภายในปี 2030 UN Tourism มุ่งหวังที่จะสนับสนุนการเดินทาง เฉลิมฉลองความสำเร็จ และส่งเสริมอนาคตที่มีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และครอบคลุมมากขึ้นสำหรับการท่องเที่ยวทั่วโลก”
ตามรายงานของ สำนักข่าวซาอุดิอาระเบีย (SPA) โดยรวมแล้ว นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศใช้จ่ายมากกว่า 250 พันล้านริยาลซาอุดีอาระเบีย (67 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 4 ของ GDP รวมของราชอาณาจักร และร้อยละ 7 ของ GDP ที่ไม่ใช่น้ำมัน
Ahmed Al-Khateeb รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นผลมาจากยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวแห่งชาติที่ริเริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
“ระบบนิเวศการท่องเที่ยวยังคงดำเนินการตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวระดับชาติโดยการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย” เขากล่าว
“เป้าหมายของเราคือการยกระดับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว เพิ่มทางเลือกที่หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในการต้อนรับพร้อมกับบริการอื่น ๆ ที่มีให้”
