จุฬาราชมนตรี รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เลขาเอกทูตซาอุดิอาระเบีย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทอท. และผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมส่งฮุจญาตส่วนกลางมุ่งหน้าพิธีฮัจย์ โดยจะมีผู้เดินทางทั้งสิ้น 2,100 ราย
นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย Mr.Ibrahim Albarnawi เลขานุการเอก สถานเอกอัครทูตราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมส่งและอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ในเทศกาลฮัจย์ ประจำปี 2567 ณ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 8 ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
การประกอบพิธีฮัจย์ เป็นบทบัญญัติของศาสนาอิสลามประการสำคัญ ดังนั้นในเทศกาลฮัจย์ทุกปี จะมีพี่น้องมุสลิมทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งพี่น้องชาวไทยมุสลิม เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประมาณ 3 ล้านคน โดยในช่วงเทศกาลฮัจย์ ประจำปี พ.ศ. 2567 (ฮ.ศ. 1445) จะมีพี่น้องชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 7,738 คน โดยเดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จำนวน 6 เที่ยวบิน โดยสายการบิน Saudi Airlines ระหว่างวันที่ 5 – 11 มิถุนายน 2567 รวมผู้เดินทาง 2,100 คน และเที่ยวบินขากลับ ระหว่างวันที่ 12 – 17 กรกฎาคม 2567 จำนวน 6 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกเพื่อให้คณะผู้เดินทางไปแสวงบุญได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการ รวมถึงได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ไว้รองรับผู้เดินทางไปแสวงบุญให้พร้อมใช้งาน อาทิ ห้องละหมาด จำนวน 3 ห้อง บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร และภายในอาคารเทียบเครื่องบิน E ชั้น 3 และอาคารเทียบเครื่องบิน C ชั้น 2 นอกจากนี้ ทสภ. ได้มีการประสานการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สายการบิน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร และด่านควบคุมโรค โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้แสวงบุญให้ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจหนังสือเดินทาง การผ่านศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร








