ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 200 คนถูกสังหารขณะที่อิสราเอลกลับมาโจมตีด้วยระเบิดในฉนวนกาซาอีกครั้ง หลังจากหยุดยิงไปเกือบ 2 เดือน
เครื่องบินรบอิสราเอลโจมตีหลายพื้นที่ทั่วฉนวนกาซา โดยโจมตีหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ รายงานระบุว่ามีการโจมตีบ้านพักอาศัยและศูนย์พักพิงชั่วคราวของชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นอย่างหนัก
ตามรายงานของ Quds News Network ระบุว่ากองทัพอิสราเอลโจมตีครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรลุ “วัตถุประสงค์” ที่ผู้นำทางการเมืองกำหนดไว้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้ว 205 คน มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากที่คานยูนิส ซึ่งการโจมตีอย่างหนักมุ่งเป้าไปที่ศูนย์พักพิงของครอบครัวที่พลัดถิ่น จำนวนผู้บาดเจ็บยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงพยาบาลซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนแพทย์อยู่แล้ว มีงานล้นมือเนื่องจากอิสราเอลห้ามส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าพื้นที่
ขณะเดียวกัน รถถังและปืนใหญ่ของกองกำลังอิสราเอลผู้ยึดครองโจมตีเราะฟะห์ทางตอนใต้และตะวันออก และพื้นที่ใกล้คานยูนิส ประชาชนรายงานว่าเกิดการระเบิดและการทำลายล้างอย่างกว้างขวาง
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล และรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล แคทซ์ สั่งการให้มีการโจมตี โดยอ้างว่าจำเป็นต้องทำ หลังจากฮามาสปฏิเสธที่จะปล่อยตัวเชลยชาวอิสราเอลหาก อิสราเอลปฏิเสธที่จะเจรจาตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สอง เพื่อรับประกันการปล่อยตัวเชลยที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซา แต่กลับพยายามบังคับให้ฮามาสปล่อยตัวพวกเขา โดยที่เทลอาวีฟไม่ยินยอมที่จะยุติการก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ตามเงื่อนไขของข้อตกลง
“เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮามาสปฏิเสธที่จะปล่อยตัวเชลยชาวอิสราเอล รวมทั้งปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดที่ได้รับจากสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจากผู้ไกล่เกลี่ย” ตามรายงานของสำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์
“อิสราเอลจะดำเนินการกับฮามาสด้วยกำลังทหารที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แผนปฏิบัติการดังกล่าวได้รับการนำเสนอโดยกองทัพอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับการอนุมัติจากผู้นำทางการเมือง” แถลงการณ์ระบุ
แหล่งข่าวในอิสราเอลระบุว่า สหรัฐได้รับแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวแล้ว ต่อมาทำเนียบขาวก็ยืนยันเรื่องนี้
ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงครั้งล่าสุดของอิสราเอล โดยก่อนหน้านี้ เทลอาวีฟเคยโจมตีชาวปาเลสไตน์ด้วยโดรน ควอดคอปเตอร์ และสถานที่ทิ้งระเบิดที่มีเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์และนักข่าวเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ กองกำลังยึดครองยังปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงโดยอนุญาตให้มีที่พักพิง เต็นท์ และคาราวานความช่วยเหลือเข้าไปในเขตยึดครอง
