แฉกองเรือรบสหรัฐฯ ไม่ได้มุ่งหน้าเกาหลีเหมือนคำคู่ทรัมป์

เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับในวันอังคาร (18 เมษายน) กองเรือจู่โจมที่ผู้นำสหรัฐฯทำทีเป็นสั่งว่า ส่งไปกำราบเกาหลีเหนือตั้งแต่เมื่อกว่า 10 วันที่แล้ว บัดนี้ยังลอยลำอยู่นอกชายฝั่งออสเตรเลีย และในความเป็นจริงกว่าจะเดินทางใกล้คาบสมุทรเกาหลีคงเป็นสัปดาห์หน้า

กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมาว่า สั่งการให้หมู่เรือโจมตีที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน ยกเลิกการเยือนออสเตรเลีย และมุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อไปคุมเชิงและป้องปรามเกาหลีเหนือ

สามวันต่อมา จิม แมตติส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ สำทับว่า เรือวินสันกำลังเดินทางไปยังคาบสมุทรเกาหลี

รุ่งขึ้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า “เรากำลังส่งกองเรือรบที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่งเดินทางไปแล้ว”

ทว่า วันอังคาร(18) เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ คนหนึ่งบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า กองเรือดังกล่าวยังลอยลำอยู่นอกชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย และจะเริ่มออกเดินทางไปยังทะเลญี่ปุ่นภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งคาดว่า จะเดินทางไปถึงก็ในอีกสัปดาห์หน้า

ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สื่อหลายสำนักประโคมข่าวว่า เรือวินสันกำลังมุ่งหน้าไปเกาหลีเหนือ และขณะที่เกาหลีเหนือนำขีปนาวุธรุ่นใหม่ๆ ออกโชว์ในพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ รวมทั้งทดสอบขีปนาวุธแต่ล้มเหลว กองเรือจู่โจมทรงอานุภาพของทรัมป์กลับมุ่งหน้าในทิศทางตรงข้ามเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย

กองบัญชาการทหารสหรัฐฯภาคพื้นแปซิฟิก อธิบายว่า หมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีนี้ ยังคงต้องทำการฝึกซ้อมกับออสเตรเลียตามแผนการที่วางไว้ให้เสร็จเพียงแต่ย่นเวลาให้สั้นลง แต่ตอนนี้ออกเดินทางไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกตามคำสั่งแล้ว

การสื่อสารที่สับสนทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีหลายคนงุนงงและสงสัยว่า เรื่องนี้จะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของคณะบริหารของทรัมป์หรือไม่ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯขยันให้ข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือด้วยถ้อยคำแข็งกร้าวกระทั่งทำให้กังวลกันไปทั่วว่า ความขัดแย้งอาจบานปลาย

โจเอล วิต ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ 38 นอร์ท ของสถาบันอเมริกา-เกาหลี มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในกรุงวอชิงตัน วิจารณ์ว่า เหตุการณ์นี้ชวนฉงนอย่างยิ่ง และเข้าทางเกาหลีเหนือที่มักตอบโต้คำขู่ว่า อเมริกาดีแต่คำรามแต่ไม่กล้าทำจริง

กระนั้น เมื่อวันพุธ (19) รองประธานาธิบดีเพนซ์ของสหรัฐฯ ก็ยังคงใช้ท่าทีแข็งกร้าวดุดันระหว่างการตรวจเยี่ยมกำลังพลอเมริกันบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน ที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น

เพนซ์กล่าวว่า คณะบริหารของทรัมป์ร่วมมืออย่างจริงจังกับพันธมิตร อาทิ ญี่ปุ่น จีน และมหาอำนาจอื่นๆ เพื่อใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจและการทูตต่อเกาหลีเหนือ แต่สำทับว่า เกาหลีเหนือไม่ควรทดสอบความเด็ดขาดของกองทัพอเมริกัน เพนซ์ยังประกาศว่า จะตอบโต้อย่างรุนแรงและมีประสิทธิภาพต่ออาวุธปกติหรืออาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสริมว่า อเมริกาจะปกป้องพันธมิตรในเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้

ความคิดเห็น

comments