เตรียมออกหมายจับ อาสา-ตม. อุ้ม-ไถเงินผู้ลี้ภัยซีเรีย

ผบช.น.เผยรู้ตัวตำรวจอาสาลุมพินี ร่วมมือ ตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแก๊งอุ้ม-รีดไถเงินช่างตัดผมผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในย่านนานา ยัดข้อหาไม่มีหนังสือผู้ลี้ภัย UNHCR มาแสดง เตรียมขอศาลออกหมายจับ 3 คน กำชับตำรวจท้องที่ต้องคัดกรองผู้ที่จะมาช่วยงานตำรวจในลักษณะเป็นอาสาหรือล่าม

วันพุธ (23 สิงหาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีนายอัลฮลาบิ โมฮัมหมัด ยัสเซอร์ กับนายอัลฮลาบิ โมฮัมหมัด วาเอล ลูกชาย อายุ 23 ปี ชาวซีเรียที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ร้องต่อกระทรวงยุติธรรมว่าถูกกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นอาสาสมัครตำรวจ สน.ลุมพินี เรียกเงิน 6 แสนบาท แลกกับการที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรเกินเวลา ว่าจากการสืบสวนล่าสุดทราบกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลอาญาออกหมายจับ 2-3 คนในข้อหาฉ้อโกง

โดยหนึ่งในจำนวนนี้เคยเป็นอาสาสมัครล่ามแปลภาษาตะวันออกกลางประจำ สน.ลุมพินี ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าปัจจุบันไม่ได้เป็นอาสาตำรวจแล้ว มั่นใจว่าจะได้ตัวทั้งหมดเร็ววันนี้

อย่างไรก็ตาม ได้กำชับตำรวจนครบาลทุกท้องที่แล้วว่าให้มีการคัดกรองผู้ที่จะมาช่วยงานตำรวจในลักษณะเป็นอาสาหรือเป็นล่าม ต้องทำด้วยใจที่เป็นสุจริตและมีความรับผิดชอบต่อสังคม

คดีนี้สืบเนื่องจากนายอัลฮลาบิ ชาวซีเรีย พร้อมด้วยนายปัณชพัฒน์ เลิศธีรเรืองกุล ตัวแทนและล่าม เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในย่านนานารีดไถ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ พร้อมยังเรียกเงินค่าประกันตัวนายอัลฮลาบิอีก ยืนยันหลักฐานหนังสือผู้ลี้ภัยที่ได้รับจากทางยูเอ็นเอชซีอาร์มาแสดง

นายปัณชพัฒน์กล่าวว่า นายอัลฮลาบิ โมฮัมหมัด ยัสเซอร์ กับนายอัลฮลาบิ โมฮัมหมัด วาเอล ลูกชาย อายุ 23 ปี ชาวซีเรีย มาอยู่ประเทศไทยได้ 3 ปี โดยลูกชายผู้เสียหายทำงานเป็นช่างตัดผมในร้านทำผมแห่งหนึ่งในนานาซอย 3 กรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา นายวาเอลถูกอาสาสมัครตำรวจพาตำรวจ สน.ลุมพินี มาจับกุมและพาไปที่ สน.ลุมพินี โดยดำเนินคดีข้อหาอยู่อาศัยในประเทศไทยเกินระยะเวลาที่กำหนดและนำตัวมาที่ สน.ลุมพินี โดยมีกลุ่มคน 3 คนอ้างว่าเป็นอาสาสมัครของ สน.ลุมพินี เรียกร้องเงินหลักแสนบาทแลกกับการปล่อยตัวลูกชาย ด้วยความเป็นพ่อ นายยัสเซอร์จึงยอมจ่ายเงินไปหลายครั้ง รวมแล้วประมาณ 550,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่มีการปล่อยตัวนายวาเอล

“เมื่อทวงถามกลับโดนตำรวจ สน.ลุมพินี จับกุมข้อหาเดียวกัน แต่นายยัสเซอร์จ่ายเงินอีก 150,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี ขณะที่ตัวลูกชายถูกนำตัวส่งสถานกักตัวคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สวนพลู จึงมาร้องขอความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากล่าสุดที่ไปเยี่ยมลูกชายพบว่าถูกทำร้ายร่างกายจนเลือดออกปากและจมูก ทั้งที่นายยัสเซอร์และนายวาเอลมีหนังสือผู้ลี้ภัยที่ UNHCR เป็นผู้ออกให้ ที่สามารถลี้ภัยจนกว่าประเทศซีเรียจะสงบจากสงคราม

ทั้งนี้ เท่าที่ทราบพื้นที่ซอยนานามักจะมีเรื่องจากเรียกเก็บเงินจากชาวต่างชาติอยู่เป็นประจำ หากไม่จ่ายจะถูกตำรวจมาจับกุมไป” นายปัณชพัฒน์กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานเรื่องดังกล่าวให้ทาง ป.ป.ท.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่าทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

ล่าสุด พ.ต.อ.ดุษฎีเผยว่า หลังรับหนังสือร้องเรียนจากผู้เสียหาย ได้ประสานนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาฯ ป.ป.ท. ให้ส่งเจ้าหน้าที่มารับเรื่องไปทันที เบื้องต้นให้ ป.ป.ท.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโดนรีดไถเงิน หรือเรียกทรัพย์จากเจ้าหน้าที่ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ยังแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ทราบเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก สน.ลุมพินี และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เป็นหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนพาดพิงด้วย

“ทั้งนี้ เรื่องที่นายอัลฮลาบิ โมฮัมหมัด ยัสเซอร์ ชาวซีเรียมาร้องเรียนนั้น ต้องแยกเป็น 2 กรณี คือต้องตรวจสอบว่า 2 พ่อลูกครอบครัวชาวซีเรีย เข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานแค่ไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้รับการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถูกต้องหรือไม่ แม้ UNHCR จะออกหนังสือผู้ลี้ภัยให้ก็ตาม ส่วนกรณีที่ 2 เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ และรีดไถ ซึ่งทั้งหมดต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ใครผิดใครถูกว่ากันตามหลักฐาน และกฎหมาย” พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าว

ความคิดเห็น

comments