ตุรกีส่งทหารภาคพื้นดินบุกซีเรีย สู้กองกำลังที่สหรัฐฯหนุนหลัง

กองทหารของตุรกี พร้อมด้วยทหารจากกองทัพเสรีซีเรีย (FSA) บุกเข้าไปในภาคเหนือของซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ (21 มกราคม) เพื่อเดินหน้าโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ดที่สหรัฐฯให้การหนุนหลัง ให้ออกห่างไปจากเมืองชายแดนติดตุรกี ขณะที่ตุรกีเปิดเผยว่าได้แจ้งต่อซีเรียในภาระกิจดังกล่าว แต่ทางด้านบาชาร์ปฎิเสธพร้อมประณามตุรกีหนุนก่อการร้าย

ตุรกีประกาศตั้งแต่วันเสาร์ (20) เปิดยุทธการ “โอลีฟ แบรนช์” ที่มีจุดมุ่งหมายขับไล่กองกำลังอาวุธ YPG ของชาวเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งเป็นฝ่ายกำลังรบของกลุ่มก่อการร้ายชาวเคิร์ดในตุรกี ให้ออกไปจากพื้นที่เขตอัฟริน ทางภาคเหนือของซีเรีย

โดย YPG เป็นกองกำลังที่สหรัฐฯ เลือกใช้บริการในการต่อสู้กับกลุ่มดาอิชในซีเรีย โดยเป็นกำลังหลักของกองกำลัง SDF ที่มีปัญหาในเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในระหว่างการปราบปรามกลุ่มดาอิช

นายกรัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริม ของตุรกีประกาศว่า กองทหารของตนข้ามเข้าไปในเขตซึ่ง YPG ควบคุมอยู่ในซีเรียเมื่อเวลา 08.05 น.เวลามาตรฐานกรีนิช (ตรงกับ 15.05 น.เวลาเมืองไทย) ตามรายงานของสำนักข่าวโดกันของตุรกี

ขณะที่กองทัพตุรกีแถลงว่า ได้ใช้ปืนใหญ่และเครื่องบินรบถล่มที่มั่นต่างๆ ของ YPG ที่อยู่รอบๆ อัฟริน และรวมทั้งหมดมีที่ตั้งของ YPG ที่ตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีไปแล้ว 153 เป้าหมาย ซึ่งก็รวมถึงจุดหลบภัยและโกดังอาวุธต่างๆ ด้วย

สำนักข่าวอนาโดลู ของทางการตุรกีรายงานว่า กองทหารตุรกีกำลังบุกคืบหน้าเคียงข้างกำลังจากกองกำลังทหารจากเสรีซีเรีย (FSA) ซึ่งเป็นกองกำลังปลดปล่อยซีเรียจากระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด และเวลานี้รุกเข้าไปข้างในซีเรียได้แล้ว 5 กิโลเมตร

สำหรับประธานาธิบดีรอยับ ตอยยิบ ออร์โดกัน ของตุรกี ได้ออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการรุกครั้งนี้เป็นครั้งแรกในวันอาทิตย์ (21) โดยแสดงความหวังว่า “ยุทธการนี้จะสิ้นสุดลงได้ในระยะเวลาที่สั้นมากๆ” พร้อมกับประกาศว่า “เราจะไม่มีการถอยหลังกลับ”

ยุทธการคราวนี้คือการบุกเข้าซีเรียครั้งใหญ่เป็นรอบที่ 2 ระหว่างสงครามกลางเมืองในซีเรียซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว โดยในครั้งแรกคือช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ถึงเดือนมีนาคม 2017 ที่ใช้ชื่อว่ายุทธการ “ยูเฟรติส ชีลด์” ซึ่งกองทหารตุรกีและกองกำลัง FSA เข้าปฏิบัติการในพื้นที่ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของอัฟริน โดยมุ่งปราบปรามทั้ง YPG และดาอิช

กองทัพตุรกีแถลงว่า ในยุทธการล่าสุดนี้ยังคงถือดาอิชเป็นเป้าหมายเช่นกัน

ออโดกันย้ำว่าตุรกีจะถอนรากถอนโคน “รังของการก่อการร้าย” ในซีเรียของ YPG ซึ่งเป็นสาขาในซีเรียของพรรคเคอร์ดิสถาน เวิร์กเกอร์ ปาร์ตี้ (PKK)

PKK ซึ่งจับอาวุธก่อกบฎในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ถูกขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายที้งในตุรกี ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

นายกรัฐมนตรียิลดิริมกล่าวว่า กองทหารตุรกีมีจุดมุ่งหมายที่จะจัดตั้งเขตความมั่นคงขึ้นมาให้อยู่ลึกจากชายแดนติดตุรกีเข้าไปภายในซีเรียเป็นระยะทางราว 30 กิโลเมตร

ทางด้าน YPG แถลงว่า ภายหลังตุรกีถล่มโจมตีครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ (20) ได้มีผู้ถูกสังหารไป 10 คนในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 7 คน ขณะที่กองทัพตุรกีบอกว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่ยืนกรานว่าทั้งหมดถ้าไม่ใช่สมาชิกของ YPG ก็เป็นพวก PKK

โฆษกคนหนึ่งของ YPG อ้างด้วยว่า กองทหารตุรกีได้พยายามบุกเข้าอัฟริน “แต่เราสามารถสกัดกั้นการโจมตีได้”

ขณะที่มีจรวด 4 ลูกที่พวก YPG เป็นยิงเข้าไปในเขตเมืองชายแดนคิลิสของตุรกี ตอนเช้าวันอาทิตย์ (21) ทำให้อาคารหลังหนึ่งได้รับความเสียหาย และผู้หญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ

การปฏิบัติการของตุรกีเกิดขึ้นพร้อมกับปฎิบัติการทางการทูต โดยกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตของชาติมหาอำนาจสำคัญมารับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับปฎิบัติการครั้งนี้

โดยทางกระทรวงตุรกีแถลงว่า ได้แจ้งให้ระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาดทราบเรื่องนี้แล้วโดยผ่านสถานกงสุลของซีเรียในเมืองอิสตันบูลของตุรกี ทว่าระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดได้ปฏิเสธการประสารงานดังกล่าว รวมทั้งยังกล่าวประณามการรุกคราวนี้ว่า เป็นการ “การให้ความสนับสนุนแก่การก่อการร้าย”

ทั้งนี้การเคลื่อนรัสเซียซึ่งมีกำลังทหารอยู่ในซีเรีย และมีความใกล้ชิดกับตุรกีในระยะหลังในประเด็นซีเรียมากขึ้น ได้แถลงแสดงความเป็นห่วงพร้อมเรียกร้องตุรกีให้แสดงความอดทนอดกลั้น ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ทหารของตนกำลังถอนตัวออกจากพื้นที่อัฟริน เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยของทหารเหล่านี้ และป้องกันไม่ให้เกิด “การยั่วยุ” ใดๆ ขึ้นมา

ความคิดเห็น

comments