นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวเมื่อวันอังคารที่(27 มีนาคม)ผ่านมาว่า พวกเขาได้ยกประเด็นเรื่องชาวโรฮิงญาที่ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างต่อเนื่องในเวทีสหประชาชาติ และกระตุ้นโดยตรงต่อรัฐบาลพม่า ในการตื่นตัวอย่างต่อเนื่องในประเด็นโรฮิงญา
การตอบซักถามในที่ประชุมคณะกรรมาธิการในรัฐสภา Theresa May กล่าวว่าสหราชอาณาจักรจะสนับสนุนบังกลาเทศต่อไปในการช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญา และ “กดดันปัญหานี้กับรัฐบาลพม่า”
ในการตอบคำถามของ Steven Twigg ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการพัฒนาระหว่างประเทศของรัฐสภา เธอตอบว่าเรายังคงทำ “สิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อให้มั่นใจว่าความเป็นอยู่ของชาวโรฮิงญาจะได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้น และคนอื่น ๆ จะไม่ลืม … และโรฮิงญาจะต้องอยู่ในการรับรู้ของผู้คนต่อไป”
ในระหว่างการประชุม Twigg เตือนคณะกรรมาธิการว่าสถานเอกอัครราชทูตพม่าในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนที่แล้วได้ปฏิเสธวีซ่าของคณะผู้แทนรัฐสภาอังกฤษในการเดินทางไปบังคลาเทศ และพม่าเพื่อเยี่ยมเยียนค่ายผู้อพยพชาวโรฮิงญาเพื่อประเมินผล
“เรารู้สึกผิดหวังมาก ยากที่จะหลีกเลี่ยงข้อสรุปได้ว่านี่(การปฎิเสธวีซา)เป็นผลโดยตรงจากรายงานเรื่องโรฮิงญาของเรา “Twigg กล่าว
ชาวโรฮิงญาซึ่งสหประชาชาติกล่าวว่าเป็นกลุ่มชนที่ถูกข่มเหงมากที่สุดในโลกได้เผชิญหน้ากับความหวาดกลัวในการถูกโจมตีนับตั้งแต่เหตุรุนแรงในยุคการปกครองของประธานาธิบดีเตง เซ่ง ในปี 2555
และความรุนแรงล่าสุดปะทุขึ้นในยุคของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ที่ส่งผลให้มีชาวโรฮิงญาราว 750,000 หนีตายจากการปราบปรามทางทหารที่รุนแรงของพม่ามายังบังกลาเทศ ที่สหประชาชาติระบุว่าปฎิบัติการทางทหารของพม่าเปรียบได้กับการกวาดล้างทางชาติพันธุ์