ตุรกีขู่เปิดฉากโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย หากสหรัฐฯชะลอการถอนทหารออกจากซีเรีย ตามการเปิดเผยของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศตุรกี วันพฤหัสบดี (10 มกราคม)
“หากการถอนกำลังเกิดความล่าช้าด้วยข้ออ้างไร้สาระอย่างเช่น ชาวตุรกีกำลังสังหารหมู่ชาวเคิร์ด ซึ่งไม่ได้สอดคล้องกับความเป็นจริง เราจะบังคับใช้การตัดสินใจนี้” เมฟลอต คาวูโซกลู บอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี
ตุรกีและสหรัฐฯกำลังขัดแย้งกันเกี่ยวกับอนาคตของกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯประกาศถอนทหาร 2,000 คนออกจากซีเรียอย่างกระทันหัน
ก่อนความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ประธานาธิบดี รอยับ ตอยยิป ออร์โดกัน ของตุรกีขู่ว่าจะเปิดฉากปฏิบัติการในซีเรียอีกครั้งหนึ่งเพื่อปราบปรามกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในซีเรียที่สหรัฐฯหนุนหลังอยู่ โดยตุรกีมองว่ากลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย
ในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ตุรกีร่วมการประชุมตึงเครียดกับ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ในกรุงอังการา โดยมีเป้าหมายเพื่อประสานงานกระบวนการถอนกำลัง
แอร์โดอันซึ่งยินดีกับแผนการถอนกำลังกล่าวหาโบลตันว่า “ทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง” ด้วยการเรียกร้องให้ตุรกีรับประกันความปลอดภัยให้กับนักรบชาวเคิร์ดก่อนที่วอชิงตันจะถอนทหารออก
เมื่อวันพุธ (9) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนภูมิภาค ก็กล่าวเช่นกันว่า ตุรกีมีหน้าที่จะต้องปกป้องพันธมิตรชาวเคิร์ดของวอชิงตันที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรีย
กองกำลังอเมริกันใช้กองกำลังหน่วยพิทักษ์ประชาชน (YPG) ของชาวเคิร์ดในซีเรีย เป็นกำลังหลักภาคพื้นดินในปฎิบัติการซีเรีย แต่ปฎิบัติการดังกล่าวสร้างความขัดแย้งกับตุรกีเนื่องจากตุรกีมองว่า YPG เป็นเครือข่ายก่อการร้ายของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ที่ก่อกบฏต่อต้านรัฐตุรกีนับตั้งแต่ปี 1984
คาวูโซกลู กล่าวว่า ตุรกีจะเดินหน้าการโจมตีตามแผนเดิม “เราตัดสินใจตามสถานการณ์และที่ประชุม เราจะตัดสินใจตามกำหนดเวลา และเราจะไม่รอให้ใครมาอนุญาต”
เขายังกล่าวว่าด้วยว่า เจ้าหน้าที่บางคนในรัฐบาลสหรัฐฯพยายามกันทรัมป์จากแผนถอนกำลัง และสร้างข้ออ้างอย่างเช่น ตุรกีกำลังสังหารหมู่ชาวเคิร์ด ในการพาดพิงถึงความคิดเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
คาวูโซกลู กล่าวว่า ตุรกีจะต่อสู้กับ YPG ไม่ว่าสหรัฐฯจะถอนกำลังจากซีเรียหรือไม่ก็ตาม เขายังกล่าวด้วยว่า เขามีแผนที่จะต่อสายโทรศัพท์คุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (10)