หวั่นอเมริกันจลาจล หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” เดินหน้ากล่าวหา “สื่อ” สมรู้ร่วมคิดกับพรรคการเมืองขู่แข่งโกงการเลือกตั้ง ด้วยการเต้าข่าวคลิปฉาวที่ตัวเขายอมรับว่าพูดจริง เพื่อส่งฮิลลารี คลินตัน เข้าทำเนียบขาว ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากนี้เขายังประกาศว่าอาจไม่ยอมรับผลการนับคะแนน พร้อมเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนช่วยกันจับตาคูหาเลือกตั้งต่างๆ เพื่อป้องกัน “การปล้นการเลือกตั้ง” ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า ฐานเสียงของทรัมป์อาจคุกคามผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอื่นๆ รวมทั้งลุกขึ้นมาก่อความรุนแรง หากอดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ปากเสียถูกประกาศว่าเป็นฝ่ายแพ้เลือกตั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีกับลิกันในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวิตเมื่อวันอาทิตย์ (16 ตุลาคม) โจมตีว่า สื่อร่วมกับทีมหาเสียงของคลินตัน กำลังเต้าข่าวให้ตัวเขากลายเป็นคนลวนลามทำอนาจารหญิง
“วันเลือกตั้งใกล้เข้ามา แต่คุณเชื่อไหมว่า ผมเสียผู้หญิงกลุ่มใหญ่จากการกุเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น สื่อกำลังโกงการเลือกตั้ง” ทรัมป์ทวิตพาดพิงถึงการที่มีผู้หญิงหลายคนเรียงหน้าออกมากล่าวหาว่าถูกเขาทำอนาจาร ภายหลังสื่อนำเอาคลิปสนทนาของทรัมป์ออกเผยแพร่ซึ่งเขายอมรับในเวทีดีเบตรอบ 2 ว่าเขาพูดจริง จนเป็นข่าวเกรียวกราวตลอดสัปดาห์ที่แล้ว และฉุดคะแนนนิยมของทรัมป์ไหลลงอย่างฉุดไม่อยู่ โดยในคลิปที่ว่า อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ผู้นี้โอ้อวดว่า ความเป็นคนดังช่วยกรุยทางให้เขากอดจูบลูกคลำสาวๆ ได้อย่างง่ายดาย แถมระบุด้วยว่า เคยนอนกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว
ต่อมา ทรัมป์ทวิตสำทับว่า “การเลือกตั้งถูกโกงโดยสื่อที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อหนุนหลังฮิลลารีจอมทุจริต นอกจากนั้นยังมีการโกงกันในคูหาเลือกตั้งหลายแห่ง น่าเศร้าจริงๆ”
นอกจากจะไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ มายืนยันเรื่องนี้แล้ว ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนช่วยจับตาคูหาเลือกตั้งต่างๆ เพื่อป้องกัน “การปล้นการเลือกตั้ง” ซึ่งมีผู้ตีความว่า ทรัมป์กำลังส่งเสริมให้ฐานเสียงของตนคุกคามผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
วันเดียวกันนั้น รูดี้ จูเลียนี อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์กและที่ปรึกษาสำคัญของทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า รู้กันดีว่า ในเขตเลือกตั้งของเดโมแครตมีการยัดบัตรผี
ทรัมป์เคยยืนกรานเมื่อหลายเดือนมาแล้วว่า ระบบการเลือกตั้งของอเมริกามีนอกมีใน และเริ่มตอกย้ำความฉาวโฉ่ในระบบเลือกตั้งอเมริกันอีกครั้งนับจากที่คลินตันมีคะแนนในการสำรวจความคิดเห็นทิ้งห่างมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้าน ทิม เคน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับคลินตัน เยาะว่า ทรัมป์เหวี่ยงใส่ทุกภาพหลอนที่ตัวเองมโนขึ้นมาเพราะรู้ตัวว่า กำลังจะแพ้
นอกจากนั้น ท่าทีล่าสุดของทรัมป์ยังกำลังถูกวิจารณ์ว่าอันตราย เนื่องจากอาจยั่วยุให้บรรดาผู้สนับสนุนออกมาก่อความรุนแรง หากเขาแพ้การเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ในการโต้วาทีกับคลินตันนัดแรก ทรัมป์ประกาศจะยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่ระหว่างการให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์เมื่อเดือนที่แล้ว เขากลับข่มขู่ว่า “เราจะมาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น”
ในส่วนของ ไมค์ เพนซ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับทรัมป์ พยายามกลบกระแสการวิจารณ์นี้โดยบอกกับซีบีเอส นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ (16) ว่า ตนและทรัมป์จะยอมรับผลการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกัน พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกชั้นนำคนหนึ่งของรีพับลิกัน และก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะไม่ปกป้องทรัมป์อีกต่อไปนั้น ได้ออกมาตำหนินักธุรกิจใหญ่จากนิวยอร์กผู้นี้เรื่องที่วิจารณ์กระบวนการเลือกตั้ง โดยบอกว่า ระบอบประชาธิปไตยของอเมริกาอิงกับความเชื่อมั่นในผลการเลือกตั้ง และตนก็เชื่อมั่นว่า รัฐต่างๆ จัดการการเลือกตั้งอย่างซื่อตรง
ด้านทรัมป์ตอบโต้ไรอันทันควันว่า “เดโมแครตมีเครื่องมือทุจริตทางการเมืองเพื่อส่งเสริมฮิลลารี คลินตัน ส่วนพรรคเราเองก็มีพอล ไรอัน ที่ตั้งหน้าตั้งตาสู้กับผู้ที่พรรคเสนอชื่อลงชิงทำเนียบขาว!”
นอกจากนั้นในวันอาทิตย์ ทรัมป์ยังทวิตกล่าวหา “สัตว์ที่เป็นตัวแทนคลินตัน” และเดโมแครตในนอร์ทแคโรไลนาว่า โจมตีสำนักงานใหญ่ในท้องถิ่นของรีพับลิกันในรัฐดังกล่าวด้วยการขว้างวัตถุไวไฟทะลุหน้าต่างด้านหน้า และพ่นสีบนกำแพงตึกติดกันเป็นเครื่องหมายสวัสดิกะและข้อความว่า “นาซีรีพับลิกันจงออกจากเมืองไปซะ”
ด้านคลินตันประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่า น่าขนลุกและรับไม่ได้ และแสดงความโล่งใจที่ไม่มีใครได้รับอันตราย