ตุรกีประกาศจะไม่อยู่นิ่ง หลังทัพชีอะห์ที่มีสหรัฐฯหนุนหลังบุกโมซุล

ประธานาธิบดีรอยับ ตอยยิบ ออโดกัน ประกาศในวันจันทร์(17 ตุลาคม) ระบุมิอาจจินตนาการภาพที่อังการาเอาแต่ยืนดูอยู่ห่างๆได้ในปฏิบัติการปลดปล่อยเมืองโมซุลจากกลุ่มดาอิช หลังกองกำลังอิรัก และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ได้รุกคืบบุกเข้าเมืองดังกล่าวโดยมีสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนทางอากาศ พร้อมผลงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงทั้งการเข่นฆ่าชาวมุสลิมจำนวนมาก การทำลายศพ นำชิ้นส่วนจากศพไปทำอาหารอย่างเหยียดหยาม และล่าสุดกองกำลังชีอะห์ยังข่มขู่จะทำเช่นเดียวกันนี้กับกองทัพตุรกีด้วย

“เราจะเข้าร่วมในปฏิบัติการณ์และเราจะมีส่วนร่วม” ผู้นำตุรกี กล่าวปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ “พี่น้องของเราอยู่ที่นั่นและญาติๆของเราอยู่ที่นั่น ไม่มีคำถามเลยว่าเราเกี่ยวข้องหรือไม่”

ตุรกีส่งกำลังเข้าไปยังเมืองบาชิกาตอนเหนือของอิรัก เพื่อช่วยเหลือกองกำลังชาวเคิร์ดในการรับมือกับการคุกคามของกลุ่มดาอิช ที่บุกยึดเมืองโมซุลตั้งแต่มิถุนายน 2014 นอกจากนี้กองกำลังตุรกีที่มีอยู่ 150 นาย พร้อมรถถัง 25 คัน ยังได้ช่วยฝึกฝนให้นักรบมุสลิมชนเผ่าในท้องถิ่นเพื่อต่อต้านการรุกคืบของกลุ่มดาอิชด้วย โดยปฎิบัติการดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลอิรัก ถึงขนาดล่าสุดผู้นำอิรักออกมาประกาศว่าอิรักปกครองด้วยระบอบรัฐเดียว

ขณะที่แกนนำกองกำลังติดอาวุธชีอะห์ได้แสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการคงอยู่ของกองทัพตุรกีในดินแดนตอนเหนือของอิรักถึงกับโพสคลิปข่มขู่ โดย Ayub Faleh Al-Rubaie นักฆ่าที่รู้จักกันดีในสงครามอิรักเจ้าของฉายา “Abu Azrael” จากกองกำลังที่ถูกครอบงำโดยชีอะห์ (PMF) ได้กล่าวถึงผู้นำตุรกีโดยระบุว่าเป็น “ลิง” และ “กระต่าย”

“โดยฮุสเซน ถ้าเราทำให้คุณอยู่ในจิตใจของเรา จะไม่มีหนูไม่ว่าจะตัวเดียว หรือหนูตัวใดที่เข้ามาปฎิบัติการในอิรัก” Abu Azrael กล่าว

และยังกล่าวอีกว่า “ผมไม่ได้หมายถึงการลักพาตัว, ไม่พวกเขาจะถูกยิงหัวโผล่ และพวกเขาจะตายเหมือนหมา” “เรามีชายหนุ่มหลายคนที่จะกัดกินใบหน้าของพวกเขา ผมสาบานต่อพระเจ้า”

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 2015 Abu Azrael ได้ถ่ายคลิปที่แสดงให้เห็นว่าเขากำลังหั่นเนื้อจากศพที่ไหม้เกรียมโดยศพเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าเขาเป็นนักรบ “ผมชอบชะวัชมา” โดยเขาอ้างอิงถึงอาหารของชาวอาหรับที่เป็นลักษณะของเนื้อย่างหันเป็นชิ้นห่อด้วยแป้งขนมปัง

พฤติกรรมของเขาเป็นสิ่งที่คนทั่วไปรับไม่ได้ และชี้ว่าเป็นการทารุณ และเป็นการละเมิด เช่นเดียวกับที่ผู้นำหญิงของกองกำลังชีอะห์กลุ่มเล็กๆในอิรักถูกรายงานโดยองค์กรอิสระว่า “[ปราบดาอิช] สังหารและนำหัวของพวกเขามา [ทำอาหาร]”

อย่างไรก็ตามออโดกันระบุว่าได้มีการหยิบยกประเด็นนี้หารือกับสหรัฐฯเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่นมา ในการสนทนาระหว่างพลเอกฮูลูซี อาคาร์ เสนาธิการทหารตุรกีและพลเรือเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานเสนาธิการทหารร่วมอเมริกา

ตุรกี มีความกังวลมากขึ้นต่อความเป็นไปได้ที่พวกชีอะห์อิรักและกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่ต่อต้านตุรกีจะเข้าร่วมปฏิบัติการจู่โจมด้วย ขณะที่รัฐบาลอิรักก็แสดงความถึงความไม่พอใจต่อการปรากฏตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตของทหารตุรกี ในเมืองบาชิกา ทางเหนือของโมซุล

แอร์โดอัน บอกว่าทหารตุรกี ซึ่งมีภาระหน้าที่ช่วยฝึกฝนนักรบอินักยึดคืนเมืองโมซุล จะอยู่ในเมืองบาชิกาต่อไป “ไม่มีใครคาดหมายว่าเราจะออกจากบาชิกา เราอยู่ที่นั่นและได้ปฏิบัติการทุกรูปแบบเพื่อต่อต้านดาอิช”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออโดกัน เตือนว่าตุรกีกำลังพิจารณาแผนบีและแผนซี หากความกังวลต่างๆของพวกเขาไม่ได้รับการจัดการ แต่ก็ไม่ให้ได้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษะของทางเลือกเหล่านั้น

ในสัญญาณที่ชี้ว่าตุรกี กำลังพยายามลดอุณหภูมิกับแบกแดด นายนูมาน เคอร์ตุลมุส รองนายกรัฐมนมตรีเผยว่าเหล่าผู้แทนระดับสูงของตุรกีซึ่งนำโดย ยูมิต ยาลชิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ กำลังเดินทางไปยังเมืองหลวงของอิรัก เพื่อดำเนินการหารือ

ขณะที่เวลานี้มีชาวซีเรียและอิรักแล้วมากกว่า 3 ล้านคนที่หลบหนีเข้าไปยังตุรกี เคอร์ตุลมุส เตือนถึงความเสี่ยงของการไหลบ่าระลอกใหม่ของผู้อพยพหากปฏิบัติการทวงคืนโมซุลประสบปัญหา

“หากมีความผิดพลาดที่โมซุล หากประชาชนจำเป็นต้องหลบหนี แล้วพวกเขาจะไปที่ไหนละ แน่นอนคงพวกเขาคงไม่ได้วอชิงตัน พวกเขาจะหลบหนีมายังตุรกี” เคอร์ตุลมุส แถลงข่าวในกรุงอังการา “นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเตือนว่าปฏิบัติการโมซุลต้องดำเนินการอย่างเหมาะสม”

นอกจากนี้แล้ว เคอร์ตุลมุส ย้ำจุดยืนของตุรกีที่ว่าเมื่อขับไล่พวกดาอิชพ้นไปได้ จำเป็นต้องคืนสถานะโมซุลสู่เมืองที่มีอาหรับสุหนี่เป็นชนกลุ่มใหญ่ตามเดิม “การเปลี่ยนสมดุลประชากรระหว่างนิกายอาจเสี่ยงนำมาซึ่งปัญหาร้ายแรง” เขากล่าว พร้อมระบุว่ามหาอำนาจจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าจะไม่เปลี่ยนมันสู่ความขัดแย้งระหว่างนิกาย

เขากล่าวด้วยว่านักรบ 3,000 คนที่ได้รับการฝึกฝนจากตุรกีจะเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว

ขณะที่ Adel Al-Jubeir รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในเมืองโมซุลทางตอนเหนือของอิรักในเวลานี้ว่า แน่นอนเราต้องทำสงครามกับดาอิช แต่การที่กองกำลังชีอะห์เข้ามามีส่วนในการบุกเมืองโมซุลมันกำลังทำให้สถานการณ์ที่นั่นหลายเป็น “อ่างแห่งเลือด”

ความคิดเห็น

comments