Quds Press รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่(20 พฤศจิกายน)ผ่านมาว่าหนังสือพิมพ์อิสราเอลได้เปิดเผยว่าทางการอิสราเอลวางแผนที่จะเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่ชาวยิว 30,000 หน่วยบนดินแดนของชาวปาเลสไตน์ แม้จะเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ แต่จะเป็นการดำเนินการในเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อต้อนรับการรับตำแหน่งใหม่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา
ตามรายงานระบุว่าคณะกรรมการวางแผนและการก่อสร้างในเขตเทศบาลเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นหน่วยงานของอิสราเอลที่ตั้งขึ้นบนดินแดนของปาเลสไตน์ ระบุว่าที่ผ่านมา 2 ปีโครงการก่อสร้างบ้านชาวยิวในดินแดนปาเลสไตน์เป็นไปอย่างล่าช้าจากการกดดันของสหรัฐอเมริกา และนานาชาติ “ตอนนี้ทรัมป์มีอำนาจ ผมหวังว่าเขาจะใส่เยรูซาเล็มไว้ในสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ” Meir Turgeman กล่าวว่า “แผนการก่อสร้างเหล่านี้จะเกิดขึ้นใน Givat Hamatos, Gilo, Ramat Shlomo; ซึ่งโครงการก่อสร้างเหล่านี้ล่าช้ามาอย่างน้อย 2 ปี”
บ้านของชาวยิว 15,000 หน่วยจะถูกสร้างขึ้นรอบ ๆ สนามบิน Jerusalem-Qalandiya และอีกหลายพันหน่วยจะสร้างในเขตอุตสาหกรรมของ Qalandiya (Atarot) โดยอีกหลายร้อยหน่วยจะสร้างใน Ramot และ Gilo โดยมีรายงานข่าวว่าคณะรัฐมนตรีอิสราเอลได้มีมติอนุมัติร่างกฎหมายการก่อสร้างบ้านของชาวยิวบนที่ดินชาวปาเลสไตน์แล้ว
ในขณะที่หัวของคณะกรรมการปกป้องดินแดนปาเลสไตน์ Waleed Assaf กล่าวว่าแผนการของอิสราเอลมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของกรุงเยรูซาเล็มให้ต่างไปจากเดิม ด้วยอาคารทางทิศใต้ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เขาชี้ให้เห็นว่านี่คือหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างบ้านชาวยิวในดินแดนของชาวปาเลสไตน์
Assaf เตือนว่าอันตรายที่สุดของแผนดังกล่าวคือการก่อสร้างในพื้นที่ E1 ซึ่งรวมถึงการสร้างบ้านชาวยิว 40,000 หน่วยในช่วง 4 ปีข้างหน้า นอกเหนือจากการปิดถนนในท้องถิ่นนี้ยังจะเกี่ยวข้องกับการกำจัดชาวปาเลสไตน์จำนวนมากออกจากพื้นที่ด้วย
เจ้าหน้าที่อิสราเอลได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อการยึดครองโดยผิดกฎหมายตามแผน “มหานครกรุงเยรูซาเล็ม” ในการก่อสร้างบ้านชาวยิวทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Ramallah ซึ่งจะเท่ากับบ้านของชาวยิวเหล่านี้จะปิดล้อมชาวปาเลสไตน์โดยสมบูรณ์