ระเบิดที่มีเป้าหมายโจมตีโรงพยาบาล และพื้นที่พลเรือน ในจังหวัดอเลปโป ถือเป็นหลักฐานสำคัญของการก่ออาชญากรรมสงครามต่อพลเรือนโดยกองกำลังของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด
สำนักข่าวอัล-ญะซีเราะห์รายงานว่ากลุ่มทนายความในประเทศเยอรมนีกำลังเตรียมการสำหรับการยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ในข้อหาอาชญากรรมสงครามต่อประชาชนในจังหวัดอเลปโป
ทนายความได้ยื่นเรื่องดำเนินคดีทางอาญากับบาชาร์ อัล-อัสซาด ต่ออัยการของรัฐบาลกลางเยอรมันเมื่อวันจันทร์ที่(28 พฤศจิกายน)ผ่านมา
กฎหมายเยอรมันเปิดช่องให้มีการดำเนินการฟ้องร้องระหว่างประเทศได้ภายใต้หลักการของภายใต้ “เขตอำนาจสากล” ซึ่งจะทำให้สามารถดำเนินคดีต่อชาวต่างชาติที่ก่ออาชญากรรมในต่างประเทศได้
กลุ่มทนายความได้อ้างรายงานจากองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่นองค์การนิรโทษกรรมสากล และปากคำจากผู้ขอลี้ภัยในประเทศเยอรมนี เป็นพยายนหลักฐานสำคัญในการสังหารโหดหลายกรณีต่อการกระทำของกองกำลังระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาดต่อพลเรือนในอเลปโป ในระหว่างเดือนเมษายน ถึงพฤศติกายน
“เรากำลังประสบกับเหตุการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ใน Aleppo ในการดำเนินการที่ต่อเนื่อง” Mehmet Daimaguler ทนายความชาวเยอรมันกล่าว
การทิ้งระเบิดที่กำหนดเป้าหมายที่โรงพยาบาล, กลุ่มพลเรือน และการบังคับเพื่อขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่
Zeid Ra’ad หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าในเดือนตุลาคมการปิดล้อมของรัฐบาลซีเรีย และการทิ้งระเบิดโจมตีพื้นที่ทางตะวันออกของอเลปโปถือเป็นการ “การก่ออาชญากรรมในมิติประวัติศาสตร์” ซึ่งได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อพลเรือนที่บาดเจ็บ-ล้มตาย
นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่ากรณีที่ควรจะต้องมีการดำเนินการในศาลอาญาระหว่างประเทศด้วย