รัฐสภาสโลาเกียผ่านร่างกฎหมายกีดกันศาสนาอิสลามอย่างสิ้นเชิงสิ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ศาสนาอิสลามไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในประเทศ และทำให้โรงเรียนที่ดำเนินการโดยองค์กรอิสลามจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาลสโลวาเกียที่มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลักของชาติ หลังก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม นายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก (Robert Fico) แห่งสโลวาเกีย ประกาศกร้าวว่า “ศาสนาอิสลามจะไม่มีที่ยืนในสโลวาเกียอย่างแน่นอน”
ยาฮูนิวส์รายงานเมื่อเสาร์ (10 ธันวาคม) ว่า ประเทศสโลวาเกีย ซึ่งมีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลักได้ทำการผ่านร่างกฎหมาย ประกาศไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการต่อศาสนาอิสลามในสโลวาเกียในวันที่ 30 พฤศจิกายน ล่าสุด และเริ่มมีผลบังคับใช้ทันที ส่งผลทำให้ศาสนาอิสลามจะไม่ได้ความช่วยเหลือ และการอุดหนุนจากรัฐบาลสโลวาเกียของนายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก (Robert Fico)
รอยเตอร์รายงานว่า ร่างกฎหมายกีดกันศาสนาอิสลามอย่างเป็นทางการนี้ ถูกเสนอเข้ามาโดยพรรคแห่งชาติสโลวัก SNS หนึ่งในพันธมิตรผสมของฟิโก ซึ่งเนื้อหาร่างกฎหมายฉบับนี้ ระบุให้ศาสนาในประเทศสโลวาเกีย ที่จะได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล จะต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 50,000 คน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 20,000 คนในอดีต เพื่อจะทำให้ศาสนานั้นๆ สามารถได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และสามารถเปิดโรงเรียนของตัวเองได้
และพบว่า ในการผ่านร่างกฎหมายนี้ ถูกรับการรับรองจากสมาชิกรัฐสภาสโลวาเกียถึง 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมด สร้างความประหลาดใจให้กับทั้งพรรครัฐบาลสโลวัก และฝั่งพรรคฝ่ายค้านเป็นอันมาก และพบว่า นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาสโลวักยังได้คว่ำร่างข้อเสนอพรรคการเมืองขวาจัดสโลวัก พรรคประชาชน – สโลวาเกียของเรา (People’s Party-Our Slovakia) ที่ต้องการเพิ่มข้อกำหนดจำนวนสมาชิกไปอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 250,000 คน
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้จะกลายเป็นงานยากสำหรับศาสนาอิสลามในสโลวาเกีย สำหรับชาวมุสลิมที่ต้องการขึ้นทะเบียนศาสนาอิสลามเป็นศาสนาอย่างเป็นทางการ เนื่องมาจากพบว่ามีเพียงผู้นับถือศาสนาอิสลามในสโลวาเกียเพียงแค่ 2,000 คนเท่านั้น อ้างอิงมาจากการสำรวจประชากรล่าสุด และอีกทั้งในสโลวาเกียยังไม่มีมัสยิด ซึ่งสถาบันอิสลามฟาวเดชัน (The Islamic Foundation) ได้ประเมินตัวเลขสมาชิกทั้งหมดขององค์กรมีราว 5,000 คน
ทั้งนี้ สโลวาเกียเป็นประเทศขนาดเล็กที่เคยอยู่ภายใต้อิทธิพลอดีตสหภาพโซเวียต มีประชากรราว 5.4 ล้านคน และมีประชากร 62% ของประชากรทั้งหมดนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมต้นปีนี้ นายกรัฐมนตรีแห่งสโลวาเกีย โรเบิร์ต ฟิโก (Robert Fico) สร้างความฮือฮา ด้วยการประกาศยืนยันทางสาธารณะว่า “ศาสนาอิสลามไม่มีที่ยืนในสโลวาเกียอย่างแน่นอน” และก่อนหน้าที่ร่างกฎหมายนี้จะผ่านการรับรอง ประธานกรรมการพรรคแห่งชาติสโลวัก อันเดรจ ดันโก (Andrej Danko) แถลงโดยอ้างว่า “การแผ่อิทธิพลทางศาสนาของศาสนาอิสลามเริ่มต้นมาจากวัฒนธรรมอาหารเนื้อย่างเคบับ (kebab) และขณะนี้ได้แพร่กระจายอยู่ในกรุงกรุงบราติสลาวา ขอให้พวกเราลองคิดดูว่าในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น”
และ ดันโก ยังแถลงเสริมต่ออย่างหนักแน่นว่า “พวกเราต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ไม่มีมัสยิดผุดขึ้นในอนาคต”
https://www.youtube.com/watch?v=sJdlBA_du28