พม่ายอมเริ่มเจรจารับโรฮิงญา ที่ลี้ภัยเข้าบังกลาเทศกลับ

พม่าได้ตกลงที่จะเริ่มเจรจาหารือกับบังกลาเทศเกี่ยวกับมุสลิมโรฮิงญา ประมาณ 65,000 คน ที่หลบหนีออกมาจากรัฐยะไข่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีด่านชายแดน 3 จุด เมื่อเดือนก่อน เจ้าหน้าที่อาวุโสของพม่าเผยในวันพฤหัสบดี (12 มกราคม)

นางอองซานซูจี ผู้นำพม่า ได้ส่งผู้แทนพิเศษไปยังกรุงธากา ในสัปดาห์นี้ ในความพยายามที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ที่มีปัญหา ด้วยทั้งสองฝ่ายต่างมองว่าโรฮิงญาไร้สัญชาตินั้นเป็นปัญหาของอีกฝ่าย

นายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินา ของบังกลาเทศ กล่าวกับ จอ ทิน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศของซูจี เมื่อวันพุธ (11) ว่า พม่าต้องรับพลเมืองพม่าทั้งหมดในบังกลาเทศกลับไป ตามการเปิดเผยของโฆษกนายกรัฐมนตรี

เอ เอ โซ ผู้อำนวยการจากกระทรวงการต่างประเทศของพม่า กล่าวว่า สองประเทศจะเริ่มหารือเกี่ยวกับกระบวนการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล

“หากพบว่าพวกเขามาจากพม่า พวกเขาจะถูกส่งตัวกลับในเวลาที่เหมาะสม” เอ เอ โซ กล่าว

ข้อตกลงดังกล่าวนับเป็นความหวังครั้งใหม่ที่หาได้ยากในความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศ ที่มีความซับซ้อนอันเนื่องจากชาวโรฮิงญามากถึง 500,000 คน อาศัยอยู่ในบังกลาเทศหลังจากที่หลบหนีการกดขี่ข่มเหงในพม่ามานานหลายสิบปี

สหประชาชาติ ระบุว่า มีชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 65,000 คน ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่มายังบังกลาเทศนับตั้งแต่การโจมตีด่านชายแดนที่สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ 9 นาย เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม และทหารพม่าได้บุกเข้าโจมตีชุมชนต่างๆ ของชาวโรฮิงญาในพื้นที่ยะไข่

ประชาชน และผู้ลี้ภัยระบุว่ากองกำลังทหาร และตำรวจพม่าก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ และวางเพลิงเผาบ้านเรือน ซึ่งทางการพม่าได้ปฏิเสธเกือบทุกข้อกล่าวหา

“หากพวกเขาเป็นชาวพม่า พวกเขาจะถูกส่งตัวกลับมาที่นี่” เอ เอ โซ กล่าว

เอ เอ โซ ย้ำว่า จากกระบวนการตรวจสอบก่อนหน้านี้ พบว่า มีผู้ที่อาศัยอยู่ในบังกลาเทศ ตั้งแต่การอพยพของผู้คนจำนวนมากครั้งก่อนนั้น มีเพียง 2,415 คน ที่มาจากพม่า ส่วนการเจรจาหารือครั้งใหม่จะมุ่งไปยังบรรดาผู้ที่เดินทางมาถึงบังกลาเทศตั้งแต่ช่วงที่เกิดเหตุความรุนแรงเมื่อไม่นานนี้

มะห์มูด อาลี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศบังกลาเทศ กล่าวว่า การเยือนของคณะผู้แทนพม่า แสดงให้เห็นว่า กระบวนการส่งตัวกลับกำลังมุ่งไปสู่ขั้นตอนถัดไปอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่ยังคงความสัมพันธ์กับพม่าอย่างเป็นมิตร แต่รัฐบาลบังกลาเทศก็ต้องการให้โรฮิงญาออกจากพื้นที่ชายแดน เพื่อที่การท่องเที่ยวจะสามารถพัฒนาได้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของบังกลาเทศ กล่าวต่อผู้สื่อข่าว

“เราต้องการเห็นพวกเขาออกไปจากบังกลาเทศโดยเร็ว” มาห์มูด อาลี กล่าว

ความคิดเห็น

comments