คำตัดสินของศาลสูงควิเบกที่สนับสนุนกฎหมายห้ามพนักงานภาครัฐสวมสัญลักษณ์ทางศาสนาในที่ทำงานถือเป็น “อันตราย” และเป็น “แนวทางฟาสซิสต์ต่อสิทธิมนุษยชน” องค์กรต่อต้านความเกลียดชังของแคนาดาระบุเมื่อวันศุกร์ ตามรายงานของสำนักข่าว Anadolu
กฎหมายฆราวาสนิยมหรือที่รู้จักกันในชื่อร่างกฎหมาย 21 ได้ห้ามพนักงาน เช่น ครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สวมสัญลักษณ์ทางศาสนาในที่ทำงาน ได้แก่ ฮิญาบของชาวมุสลิม ไม้กางเขนแบบคริสเตียน ผ้าโพกหัวของชาวซิกข์ และผ้าคิปปาห์ของชาวยิว
ในคำตัดสินความยาว 200 หน้าซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวันพฤหัสบดี ศาลยึดถือร่างกฎหมาย 21 และยังขยายเวลาให้ครอบคลุมคณะกรรมการโรงเรียนภาษาอังกฤษที่เคยได้รับการยกเว้นมาก่อนด้วย
“เห็นได้ชัดว่าผู้พิพากษาในคณะไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมาย ซึ่งล้วนเป็นชุมชนทางศาสนาที่ถูกเหยียดเชื้อชาติ หรือความคลั่งไคล้และการเหยียดเชื้อชาติที่กฎหมายอนุญาต” ฟารีด ข่าน ผู้ก่อตั้ง Canadians United Against Hate กล่าว ในการแถลงข่าว “ด้วยการตัดสินใจครั้งนี้ ชาวมุสลิม ซิกข์ และชาวยิวในจังหวัดที่สวมเสื้อผ้าที่สอดคล้องกับความศรัทธาของพวกเขา ได้รับการบอกกล่าวว่าพวกเขาเป็นพลเมืองชั้นสองในควิเบกและเป็นมนุษย์ที่ต่ำกว่าเพราะความศรัทธาของพวกเขา”
สภาแห่งชาติมุสลิมแคนาดา (NCCM) ให้คำมั่นในโพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีบน X ว่าจะต่อต้านกฎหมายนี้อย่างจริงจังต่อไป
“เราจะต่อสู้ต่อไป รวมถึงในศาลด้วย” NCCM กล่าว “นี่ไม่ใช่จุดจบ. เราไม่ยอมรับควิเบกและแคนาดาซึ่งเสรีภาพและสิทธิทางศาสนาของเราเป็นเพียงการอนุญาตที่สามารถลบล้างได้ตามเจตนารมณ์ของนักการเมือง”
ข่านยังกล่าวโทษรัฐบาลกลางของนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ที่ไม่ดำเนินการใดๆ ต่อร่างกฎหมาย 21 ในศาลชั้นสูงเมื่อมีการนำขึ้นพิจารณา
“หากพวกเขา (ทรูโดและรัฐบาลเสรีนิยม) ใส่ใจอย่างแท้จริง พวกเขาคงส่งกฎหมายดังกล่าวไปยังศาลฎีกาในปี 2019 เมื่อควิเบกบังคับใช้กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงผลทางการเมือง” ข่านกล่าว