พืชยืนต้นมีความสามารถในการทนทานต่อสภาวะที่เลวร้าย เช่น ภัยแล้ง การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจ จึงมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของเรา โดยให้แหล่งอาหารแก่คนและสัตว์ และยังมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยรวมอีกด้วย
อาหรับนิวส์รายงานว่าด้วยการตระหนักถึงความสำคัญของสินทรัพย์อันล้ำค่าเหล่านี้ ศูนย์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาพืชคลุมดินและการต่อสู้กับการกลายเป็นทะเลทรายจึงได้ริเริ่มโครงการย้ายและดูแลต้นไม้ยืนต้นในเขตมะดีนะห์
ในปฏิบัติการระยะเวลาสี่เดือน ศูนย์ได้ย้ายต้นไม้บางต้นไปยังสวนสาธารณะอัลบัยดาอัลบารี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาพืชพรรณ
คอลิด บิน ซาดุลลอฮฺ อัล-ไซดิ ผู้แทนหน่วยงานบริหารการเลี้ยงสัตว์ทั่วไปและหน่วยงานบริหารการคุ้มครอง กำกับดูแล และตรวจสอบของ NCVC ในเขตมะดินะห์ กล่าวกับอาหรับนิวส์ ว่า “เป้าหมายคือการอนุรักษ์พืชพรรณและย้ายต้นไม้ยืนต้นเหล่านี้ไปดูแลรักษา โดยจะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการผ่านความร่วมมือและริเริ่มกับผู้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมทั่วทั้งราชอาณาจักร”
ขั้นตอนการย้ายเกี่ยวข้องกับการคัดเลือกต้นไม้โดยละเอียด โดยพิจารณาจากประเภท ขนาด สภาพ อายุ และประโยชน์ที่ได้รับ
ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ใช้วิธีการที่ทันสมัยในการย้ายต้นไม้ ลดความเสียหายให้น้อยที่สุด และให้แน่ใจว่าต้นไม้จะอยู่รอด
กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการเตรียมสถานที่ใหม่ การขุด และการผลิตแม่พิมพ์ไม้เพื่อยึดต้นไม้ ตลอดจนการจัดหาพาหนะ อุปกรณ์ และรถแทรกเตอร์ขนส่งพิเศษ
ไม้ยืนต้น เช่น อะคาเซีย เอเรนเบิร์กเรียนา, อะเคเซียป่า และ Maerua crassifolia ที่กีดขวางโครงการและแนวการพัฒนาก็จะถูกย้ายออกไปเช่นกัน
“ต้นอะคาเซีย เอเรนเบิร์กเรียนาเป็นต้นไม้ท้องถิ่นที่สำคัญของราชอาณาจักร มีลักษณะเด่นคือขนาดใหญ่ กิ่งก้านจำนวนมาก และสามารถทนต่อสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายได้” อัล-ไซดีกล่าว
ต้นอะเคเซียป่าสามารถทำหน้าที่เป็นแนวกันลม และยังให้ร่มเงาและที่พักพิงแก่เหล่านก รวมถึงเป็นอาหารสำหรับปศุสัตว์อีกด้วย ต้นไม้สามารถเติบโตได้สูงถึงประมาณ 9 เมตร และออกดอกสีเหลือง โดยส่วนใหญ่จะบานในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ซึ่งดึงดูดผึ้ง ซึ่งผลิตน้ำผึ้ง “ซาลิม”
กระบวนการย้ายดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยต้องขอบคุณผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ดังกล่าว อัล-ไซดีกล่าว
“เรายังขอขอบคุณความร่วมมือของกระทรวงคมนาคมในภูมิภาคในการขนส่งต้นไม้บนถนนสายหลักและความสนใจและความร่วมมือของประชาชนในโครงการริเริ่มนี้” เขากล่าวเสริม
ความพยายามนี้มีส่วนสนับสนุนอย่างมากในการอนุรักษ์และเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพในภูมิภาคมะดินะห์ การเน้นที่พันธุ์ไม้พื้นเมืองซึ่งมีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับทั้งคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นอนาคต การย้ายต้นไม้เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยขยายพื้นที่สีเขียวเท่านั้น แต่ยังช่วยเร่งกระบวนการเจริญเติบโตและการฟื้นฟูอันยาวนานอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ เนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก นายอัล-ซาอิดี กล่าวว่า “เป็นหน้าที่ของแต่ละบุคคลเสมอที่จะดูแลสิ่งแวดล้อมและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นอนาคตจะมีความยั่งยืน”
NCVC ยังคงดำเนินงานในกิจกรรมและริเริ่มดังกล่าวตลอดทั้งปี โดยมีเป้าหมายที่จะปกป้องต้นไม้โตเต็มวัยและต้นไม้หายาก ให้แน่ใจถึงความยั่งยืนในระยะยาว และเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพและความพยายามด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
ความพยายามของศูนย์นี้จะนำไปสู่การอนุรักษ์ต้นไม้หลากหลายชนิดทั่วราชอาณาจักร ส่งเสริมความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
