แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้กองกำลังติดอาวุธ HTS ของซีเรียที่ประสบความสำเร็จในการโค่นล้มบาชาร์ อัล อัสซาด ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการรวมเอาทุกฝ่ายเข้าไว้ด้วยกัน โดยกล่าวว่ากองกำลังนี้สามารถเรียนรู้บทเรียนจากการโดดเดี่ยวของกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถานได้
กลุ่มนักรบซึ่งมีรากฐานมาจากอัลกออิดะห์และได้รับการสนับสนุนจากตุร์กีเยได้ให้คำมั่นว่าจะปกป้องชนกลุ่มน้อยนับตั้งแต่การโจมตีแบบสายฟ้าแลบของกลุ่มสามารถโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดได้ในเดือนนี้ หลังจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายปี
“กลุ่มตาลีบันแสดงท่าทีที่เป็นกลางมากขึ้น หรืออย่างน้อยก็พยายามทำ เพื่อปกครองอัฟกานิสถาน และแล้วสีสันที่แท้จริงของกลุ่มก็ปรากฏออกมา ผลก็คือกลุ่มตาลีบันยังคงโดดเดี่ยวอย่างน่ากลัวทั่วโลก” บลิงเคนกล่าวในการประชุมสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในนิวยอร์ก
หลังจากมีท่าทีเบื้องต้นต่อตะวันตก กลุ่มตาลีบันก็ได้นำการตีความกฎหมายอิสลามที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งรวมถึงห้ามผู้หญิง และเด็กผู้หญิงเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัย
“ดังนั้น หากคุณเป็นกลุ่มที่เพิ่งเกิดใหม่ในซีเรีย” บลิงเคนกล่าว “หากคุณไม่ต้องการความโดดเดี่ยว ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่คุณต้องทำเพื่อนำประเทศก้าวไปข้างหน้า”
บลิงเคนเรียกร้องให้มีรัฐบาลซีเรีย “ที่ไม่แบ่งแยกนิกาย” ที่ปกป้องชนกลุ่มน้อย และจัดการกับปัญหาความปลอดภัย รวมถึงการต่อสู้กับกลุ่ม ISIS และกำจัดคลังอาวุธเคมีที่หลงเหลืออยู่
บลิงเคนกล่าวว่า HTS ยังสามารถเรียนรู้บทเรียนจากอัสซาดเกี่ยวกับความจำเป็นในการบรรลุข้อตกลงทางการเมืองกับกลุ่มอื่นๆ ได้
“การที่อัสซาดปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองใดๆ เลยเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาต้องล่มสลาย” บลิงเคนกล่าว