Amer ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องสองครั้งเนื่องจากความล่าช้าด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับนามสกุลของเขา แต่สุดท้ายเครื่องบินต้องกลับมารับเขา
กัฟนิวส์รายงานว่า การเดินทางอันแสนธรรมดาสู่มหานครมักกะห์ กลาย มาเป็นเรื่องราวอันน่าทึ่งเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในศรัทธา และปัญหาทางเทคนิคที่เกิดกับชาวลิเบียคนหนึ่งที่ปฏิเสธที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
Amer Al Mahdi Mansour Al Gaddafi ชายหนุ่มชาวลิเบีย ตั้งใจไว้ว่าจะต้องประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ ซึ่งเป็นพันธสัญญาทางจิตวิญญาณอันลึกซึ้งที่ชาวมุสลิมทั่วโลกใฝ่ฝันที่จะได้บรรลุอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
แต่เกิดปัญหาที่สนามบิน เมื่อัมร์ถูกกักตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเนื่องจากเกิดความล่าช้าในการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับนามสกุลของเขา ซึ่งก็คือ Al Gaddafi โดยที่นามสกุลของเขายังคงไม่ชัดเจนในระบบบางระบบแม้จะผ่านมากว่าทศวรรษแล้วนับตั้งแต่เกิดความไม่สงบในลิเบีย
ขณะที่คณะของเขากำลังขึ้นเครื่องบิน Amer ยังคงถูกกักตัวอยู่ที่เคาน์เตอร์ แม้จะขอร้องอย่างไร กัปตันเครื่องบินก็ยังคงยืนกรานที่จะออกเดินทางโดยไม่มีเขา โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนด้านความปลอดภัย และข้อจำกัดด้านตารางเวลา
อย่างไรก็ตาม Amer ยังคงยืนกรานว่า “ผมจะไม่ย้ายออกไปจากที่นี่ เว้นแต่ว่าจะเป็นเรื่องฮัจญ์” เขากล่าว
ไม่กี่วินาทีต่อมา เครื่องบินก็เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคและต้องบินกลับ หลังจากล่าช้าและต้องซ่อมแซมเล็กน้อย เครื่องบินก็ขึ้นบินอีกครั้ง แต่กลับประสบปัญหาอีกครั้ง จึงต้องบินกลับอีกครั้ง
ตามคำบอกเล่าของผู้โดยสารและลูกเรือ ระบุว่า หลังจากลงจอดฉุกเฉินครั้งที่ 2 กัปตันได้ประกาศว่า “ผมสาบานว่าจะไม่บินอีก เว้นแต่ว่า Amer จะอยู่กับพวกเราบนเครื่องบินลำนี้”
เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ Amer เดินทางได้อย่างรวดเร็ว ในความพยายามครั้งที่สาม เมื่อ Amer อยู่บนเครื่องบินแล้ว เครื่องบินก็ออกเดินทางได้โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ
เรื่องราวนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย หลายคนตีความว่าเป็นสัญญาณแห่งพระประสงค์ของพระเจ้าและคำอธิษฐานตอบรับ “ผมแค่อยากไปฮัจญ์” Amer กล่าวในสื่อท้องถิ่นในเวลาต่อมา เขาเชื่อว่าความตั้งมั่นของเขาจะไม่มีสิ่งใดมาขวางเขาได้