ปาเลสไตน์ลงนามร่วมภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศ

ประธานาธิบดีมะห์มุด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ลงนามให้สัตยาบันเป็นรัฐภาคีแห่งธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่การประชุมที่เมืองรามัลเลาะห์ ในเขตเวสต์แบงก์ หลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอซี) ปฏิเสธคำร้องของปาเลสไตน์ที่ต้องให้อิสราเอล ยุติการขยายนิคมยิวภายในปี 2560 ทั้งนี้ ในจำนวนสมาชิก 15 ชาติของยูเอ็นเอสซี มี 8 ประเทศที่ลงความเห็นชอบแต่สหรัฐและออสเตรเลียใช้สิทธิ์ขัดขวางเอาไว้

ปาเลสไตน์ต้องการที่จะใช้กลไกอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ (ไอซีซี) ฟ้องร้องอิสราเอลซึ่งไม่ได้เป็นภาคีไอซีซี ในข้อหาเป็นอาชญากรรมสงคราม โดยอิสราเอลได้ออกมาวิจารณ์ว่า รัฐบาลปาเลสไตน์ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มฮามาส  ไม่ต่างไปจากกลุ่มก่อการร้ายไอเอส กำลังขอให้ไอซีซีช่วยเหลือตนเอง

หลังจากที่ประธานาธิบดีอับบาส ผิดหวังจากการกระทำของยูเอ็นเอสซี เขาก็ได้รีบเร่งลงนามในธรรมนูญดังกล่าว เพื่อเป็นภาคีศาล เนื่องจากต้องการใช้อำนาจของนานาชาติจัดการกับปัญหาระหว่างกับอิสราเอลสันติตามกลไกลกฎหมายระหว่างประเทศ แทนที่การเจรจาอย่างที่เคยปฏิบัติมาโดยไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากสหรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในภาคีเจรจามีจุดยืนเคียงข้างสหรัฐ และอิสราเอลก็ละเมิดข้อตกลงต่างๆในการเจรจาอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจต่อข้อตกลงใดโดยอับบาสพยายามที่จะดึงนานาชาติเข้ามาช่วยเหลือปาเลสไตน์

ทั้งนี้ ปาเลสไตน์สามารถเข้าเป็นภาคีของไอซีซีได้ในปี 2555 เมื่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) มีมติเสียงข้างมากเมื่อปี 2555 ยกระดับสถานะให้ขึ้นมาเป็น “รัฐผู้สังเกตการณ์” เทียบเท่านครรัฐวาติกัน

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น