แถลงการณ์ของสายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เผยเรื่องการเงินช่วยเหลือขั้นต้นรายละ 24,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 792,000 บาท ) ให้กับครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือรวม 162 คน ซึ่งเสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมเครื่องบินของบริษัท เที่ยวบิน คิวแซด 8501 ตกกลางทะเลชวา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. พร้อมระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นความช่วยเหลือเพื่อให้ครอบครัวผ่าน “ความยากลำบาก” ทางการเงินในเวลานี้ไปได้
ขณะที่สำนักงานค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแห่งชาติของอินโดนีเซีย ( บาซาร์นาส ) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับทิศทางของปฏิบัติการค้นหาซากเครื่องบิน โดยเฉพาะกล่องบันทึกข้อมูลการบิน หรือกล่องดำ ว่ายังคงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ โดยทีมนักประดาน้ำพยายามดำลงไปในตำแหน่งที่มีการตรวจพบวัตถุต้องสงสัยขนาดใหญ่ 5 ชิ้นแล้ว แต่กระแสลมและคลื่นพัดพาตะกอนดินโคลนทะเลลอยคลุ้งขึ้นมาบดบังให้ทัศนวิสัยในบริเวณนั้นแทบเป็นศูนย์
ด้านนายบัมบัง โซลิสต์โย ผู้อำนวยการของบาซาร์นาส แถลงเมื่อวันอาทิตย์ แสดงความเชื่อมั่นว่า กล่องดำน่าจะอยู่ไม่ห่างจากจุดที่มีการพบชิ้นส่วนทั้ง 5 ชิ้น โดยอ้างอิงจากประสบการณ์การทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และในวันนี้ทีมนักประดาน้ำจะพยายามเข้าสู่บริเวณนั้นให้ได้อีกครั้ง
ส่วนจำนวนศพที่เจ้าหน้าที่จากนานาชาติร่วมกันเก็บกู้ขึ้นมาได้อยู่ที่อย่างน้อย 34 ศพ ซึ่งเข้ารับการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและส่งมอบให้ครอบครัวนำกลับไปประกอบพิธีตามศาสนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เที่ยวบินคิวแซด 8501 มีกำหนดนำผู้โดยสาร 155 คน และลูกเรือ 7 คน ออกเดินทางจากเมืองสุราบายาบนเกาะชวา มุ่งหน้าสู่สนามบินชางงีในสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. แต่กลับตกลงกลางทะเลชวา หลังออกเดินทางมาได้เพียง 42 นาที ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายในเวลานั้นอาจเป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดโศกนาฏกรรม
หลังเกิดเหตุ กระทรวงคมนาคมของอินโดนีเซียตั้งคณะทำงานสืบสวนเรื่องราวทั้งหมด และมีคำสั่งเมื่อวันเสาร์ ให้แอร์เอเชียระงับบริการเที่ยวบินระหว่างเมืองสุราบายากับสิงคโปร์อย่างไม่มีกำหนด หลังพบว่ามีการละเมิดข้อตกลงด้านการบินกับรัฐบาล ที่ไม่ได้อนุญาตให้สายการบินนำเครื่องขึ้นบินในเส้นทางดังกล่าวในวันอาทิตย์ หนำซ้ำยังเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=wpXcTNdP4zo