มีทหารรัฐบาลพม่าเสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 100 คนในสัปดาห์นี้ ในเหตุการณ์การปะทะกันหลายครั้ง กับฝ่ายกบฎที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์พม่าสายจีนเมื่อก่อน โดยได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์อีก 2 กลุ่ม ซึ่งทำให้ฝ่ายรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการเจรจาสันติภาพกับกองกำลังของอีกหลายฝ่าย ต้องส่งเครื่องบิน MiG-29 กับเฮลิคอปเตอร์แบบ Mi-35 ไปทิ้งระเบิดและโจมตีฐานที่ตั้งของฝ่ายตรงข้าม
โกลบอลนิวไล้ท์ออฟเมียนมาร์ (GNLM) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันกึ่งทางการ และสื่ออื่นๆ ได้ให้รายละเอียดต่างๆ ที่ทำให้เห็นภาพรวมแห่งความยุ่งยากในการไปสู่สันติภาพปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น ในขณะที่ประธานาธิบดีเต็งเส่งแห่งพม่า ยังคงเพียรพยายามเจรจากับผู้นำของหลายกลุ่ม และ ครั้งล่าสุดมีขึ้นในวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ในกรุงเนปีดอ
ตามตัวเลขของ GNLM มีทหารรัฐบาลเสียชีวิตทั้งหมด 47 คนกับอีก 73 คนบาดเจ็บ จากการปะทะกันหลายระลอก กับกลุ่มโกกัง (Kokang) กลุ่มติดอาวุธของผู้นำที่ในอดีตเคยอื้อฉาวเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายยาเสพติด ทางตอนบนของรัฐชานใกล้กับชายแดนจีน
กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวเคยถูกปราบปรามอย่างหนัก ในฤดูแล้งเมื่อปี 2552 จนต้องหนีเข้าไปในดินแดนจีน ทำให้จีนต้องรับแบกภาระเลี้ยงดูผู้พลัดถิ่นราว 30,000 คน ปัจจุบันได้กลับไปรวมกลุ่มกันใหม่ภายใต้ชื่อใหม่เป็น กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่า (Myanmar National Democratic Alliance Army -MNDAA) และ ปฏิเสธที่จะเซ็นความตกลงหยุดยิงกับฝ่ายรัฐบาล
การโจมตีฝ่ายรัฐบาลในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. เป็นความพยายามในการยึดคืนพื้นที่ที่สูญเสียไปตั้งแต่ปี 2552 โดยมีกองกำลังอาวุธอีก 2 กลุ่มให้ความช่วยเหลือ คือ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตาอาง ( Ta’ang National Liberation Army –TNLA) กับกองทัพอารากัน (Arakan Army — AA) ซึ่งเป็นกองกำลังอาวุธของชนชาติยะไข่ เจ้าหน้าที่ของกลุ่มโกกังยืนยันเรื่องนี้กับนิตยสารข่าวเมียนมาร์ไทมส์ เช่นเดียวกันกับโฆษกคนหนึ่งของ TNLA
“ในขณะที่รัฐ (พม่า) กำลังพยายามอย่างถึงที่สุด เพื่อให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ กลุ่มนอกคอกโกกังได้โจมตีกองทัพของเรา” โกลบอลนิวไล้ท์ออฟเมียนมาร์กล่าวในฉบับวันที่ 13 ก.พ. โดยให้รายละเอียดด้วยว่า ฝ่ายกบฏโจมตีฝ่ายทหารด้วยอาวุธหนักนานาชนิด รวมทั้งปืนกลต่อสู้อากาศยานด้วย
ตาปันหลา (Ta Pan Hla) รองโฆษก TNLA กล่าวว่า กองกำลังของฝ่ายตนได้ช่วยเหลือกลุ่มโกกังยึดคืนพื้นที่ส่วนหนึ่ง ในบริเวณเมืองล็อกไก (Laukkai) กับเมืองกอนเกียน (Kone Kyan) กลับคืนได้เหมือนเดิม
โกลบอลนิวไล้ท์ฯ รายงานในวันพฤหัสบดีว่า กองทัพได้ส่งเครื่องบินรบออกโจมตีทิ้งระเบิดฝ่ายกบฎจำนวน 5 เที่ยว ซึ่งตรงกับการให้สัมภาษณ์โฆษก MNDAA ที่ระบุว่า เห็นเครื่องบิน MiG-29 ออกปฏิบัติการโจมตีที่ตั้งของฝ่ายตนจำนวน 5 ลำ นอกจากนั้นก็ยังมีผู้เห็น เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ Mi-35 ที่ซื้อจากรัสเซียจำนวน 2 ลำ ติดอาวุธพร้อม จอดที่สนามบินเมืองลาเฉียว ในรัฐชานอีกด้วย
ที่ผ่านมารัฐบาลประธานาธิบดีเต็งเส่ง ได้จัดให้มีการประชุมเจรจากับผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 20 กลุ่มมาหลายครั้ง แต่ก็มีการปะทะกันขัดจังหวะการเจรจาอยู่เนืองๆ ซึ่งบางครั้งก็เริ่มต้นจากทหารของรัฐบาลเอง ผู้นำสูงสุดยอมรับว่า การไปสู่สันติภาพนั้นเป็นการเดินทางไกล เนื่องจากเป็นการแก้ไขปัญหาโดยผ่านการสนทนากัน
เดือน ม.ค.ปีนี้ ฝ่ายรัฐบาลได้ปะทะกับกองกำลังกองทัพเพื่อเอกราชกะฉิ่น (Kachin Independence Army – KIA) อีกครั้งหนึ่ง ในเขตเมืองป๊ะกัน (Hpakant) และ เมื่อต้นเดือนนี้โฆษกกองทัพตาอางก็กล่าวหาว่า ฝ่ายรัฐบาลได้โจมตีทางอากาศ ที่มั่นของฝ่ายตน
สถานการณ์รุนแรงระลอกใหม่ในดินแดนพม่า ได้ทำให้จีนหวาดวิตกอีกครั้งหนึ่ง เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีพลเรือนอีกนับหมื่นๆ คนทะลักข้ามพรมแดนจีนเข้าไปสร้างภาระนางหัวชุนอิง (Hua Chunying) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนคนหนึ่งแถลงเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ว่า ได้เริ่มมีราษฎรพม่าหลบหนีการสู้รบ ข้ามเข้าสู่แดนจีนจำนวนหนึ่งแล้ว รัฐบาลจีนได้ให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในฐานะผู้ลี้ภัย
“สถานการณ์ในแถบตอนเหนือของพม่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพตามแนวชายแดนจีน-พม่า เราหวังว่ารัฐบาลพม่ากับ MNDAA จะสามารถหยุดยิงและแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยการเจรจาอย่างสันติ” โฆษกของจีนกล่าว