ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลองด์ แห่งฝรั่งเศสวานนี้ (23 ก.พ.) ให้คำมั่นจะเพิ่มบทลงโทษต่อผู้ที่ใช้ถ้อยคำ “เหยียดเชื้อชาติ ต่อต้านยิว หรือเกลียดชังคนรักร่วมเพศ” ให้รุนแรงขึ้นอีก คล้อยหลังเหตุการณ์กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงเปิดฉากโจมตี 3 ครั้งซ้อนที่กรุงปารีส จนเป็นเหตุให้มีพลเรือนและตำรวจเสียชีวิตรวม 17 ราย ขณะที่เหตุโจมตีชาวมุสลิมเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวจากเหตุดังกล่าว แต่ไม่ถูกปกป้องจากรัฐบาลฝรั่งเศสเหมือนชาวยิว
ประธานาธิบดีโอลองด์ได้เรียกร้องระหว่างการปราศรัยในงานเลี้ยงอาหารมื้อค่ำประจำปี ที่ชุมชนชาวยิวในฝรั่งเศสรับหน้าเป็นเจ้าภาพให้มีการ “ลงโทษอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” ต่อผู้ที่ใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเกลียดชัง พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า “ผมต้องการให้ผู้ที่ใช้ถ้อยคำเหล่านี้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา แทนที่จะเป็นกฎหมายการพิมพ์”
โอลองด์กล่าวว่า พวกต่อต้านยิวควรได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นผู้กระทำการปลุกปั่นยั่วยุ ไม่ว่าพวกเขาจะถูกดำเนินคดีจากความผิดใดๆ ก็ตาม
นอกจากนี้ ผู้นำฝรั่งเศสยังกล่าวด้วยว่า บรรดาว่าที่นักรบหัวรุนแรงจะต้องเผชิญกับบทลงโทษที่เข้มงวดมากขึ้น ภายใต้ร่างกฎหมายข่าวกรองที่จะมีการเผยโฉมในเดือนหน้า
งานเลี้ยงอาหารมื้อค่ำวานนี้ (23) กลายเป็นที่จับตามองเมื่อ ดาลิล บูบาเกอร์ ประธานสภามุสลิมฝรั่งเศสประท้วงงานดังกล่าวหลังจาก โรเจร์ กูกิเยร์มอง ประธานชุมชนชาวยิว กล่าวหาว่าหนุ่มสาวชาวมุสลิมเป็นต้นของปัญหาการใช้ความรุนแรงกับชาวยิว
กูกิเยร์มองอ้างว่า ตน “รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง” ที่บูบาเกอร์ไม่มาร่วมรับประธานมื้อค่ำ พร้อมกับอ้างว่า “ชาวยิวและมุสลิมลงเรือลำเดียวกันแล้ว และผมคาดหวังว่า เราจะกลับมาไปมาหาสู่เหมือนเดิมอีกครั้งโดยเร็ว”
นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่คร่าชีวิตประชาชนไป 17 ราย รวมทั้งชาวยิว 4 คน ที่ถูกกราดยิงเสียชีวิตในซูเปอร์มาร์เกตยิว ก็มีการวางกำลังทหารและตำรวจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามโบสถ์ยิว และโรงเรียนชาวยิว
เมื่อเดือนที่แล้ว องค์กรชาวยิวแห่งสำคัญของฝรั่งเศสระบุว่า เมื่อปี 2014 มีการก่อเหตุของพวกเกลียดชังยิวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในฝรั่งเศส โดยเฉพาะการก่อเหตุทำร้ายร่างกายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่มีรายงานตัวเลขการก่อเหตุ หรือรายงานทางคดีในส่วนของตำรวจ
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวยิวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยประมาณการกันว่ามีชาวยิวอาศัยอยู่ราว 500,000 ถึง 600,000 คน ตลอดจนเป็นที่ตั้งของชุมชนมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีประชากรชาวมุสลิมในประเทศนี้ถึงราว 5 ล้านคน
เมื่อปีที่แล้ว จำนวนชาวฝรั่งเศสที่อพยพไปอิสราเอลได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 6,600 คน และคนจำนวนมากเชื่อว่า ในอนาคตตัวเลขยังจะขยับสูงขึ้นอีก
ขณะที่เจ้าหน้าที่สังเกตุการณ์ Islamophobia กล่าวว่ามีกว่าหนึ่งร้อยเหตุการณ์โจมตีชาวมุสลิมที่มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนับตั้งแต่เหตุโจมตี Charlie Hebdo
การเพิ่มขึ้นของการโจมตีในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 110 กว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว(มกราคม 2014)
นอกจากนี้ยังมีเหตุฆาตกรรมโหดแทงพ่อชาวมุสลิมคนหนึ่งเสียชีวิตในบ้านของตัวเองทางตอนใต้ของฝรั่งเศสในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฆากรที่ก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้านอ้างว่าลงมือฆ่าเพื่อเป็นการล้างแค้น Charlie Hebdo
ขณะที่เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เด็กนักเรียนชาวมุสลิมวัย 8 ขวบคนหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสนำตัวไปสอบปากคำหลังจากปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการสงบนิ่งเพื่อให้เกียรติกับผู้เสียชีวิตในเหตุ Charlie Hebdo ด้วย