สหรัฐฯ แสดงความกังวลในวันพุธ (13) ถึงผู้อพยพหลายร้อยคนที่ถูกกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ทอดทิ้งไว้บนบกและกลางทะเล โดยเรียกร้องให้กลุ่มชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมมือกันจัดการกับวิกฤติดังกล่าว
ชาวบังกลาเทศและชาวโรงฮิงญาจากพม่าจำนวนมากได้หลบหนีความยากแค้น และการถูกห่มเหงรังแกลงเรือสภาพทรุดโทรมข้ามอ่าวเบงกอลผ่านช่องทางของกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ ซึ่งดำเนินเครือข่ายลักลอบขนคนเข้าเมืองในภูมิภาคอันเฟื่องฟูและสร้างผลกำไรงาม
ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีผู้อพยพที่สิ้นหวังหลายพันคนถูกทอดทิ้งโดยกลุ่มลักลอบขนเข้าเมือง ส่วนหนึ่งอยู่ในค่ายกลางป่าทึบ อีกส่วนหนึ่งอยู่บนเรือกลางทะเล หลังจากที่มีการปราบปรามขบวนการนี้โดยทางการไทย
โฆษกหญิงของสถานทูตสหรัฐฯ บอกกับเอเอฟพี ว่าผู้อพยพส่วนใหญ่ออกเดินทาง “เนื่องจากสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่พวกเขาเผชิญในประเทศบ้านเกิด หรือหวาดกลัวความรุนแรงทางเชื้อชาติและศาสนา”
“นี่เป็นความท้าทายในภูมิภาคที่จำเป็นต้องได้รับการจัดการในภูมิภาค ผ่านความพยายามที่สอดประสานของหลายๆ ประเทศ และเป็นไปตามอนุสัญญาสากล รวมถึงกฎหมายทางทะเล” เธอ กล่าวเสริม
ประเทศไทยเรียกร้องให้การประชุมซัมมิทในภูมิภาคครั้งต่อไปในเดือนนี้จัดการรับมือกับวิกฤตดังกล่าว แต่ผู้สังเกตการณ์มากมายกลัวว่า การตอบสนองใดๆ ก็ตามอาจมาช้าเกินไปสำหรับผู้ที่ติดอยู่กลางทะเลในเวลานี้
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างจากคำพูดของเจ้าหน้าที่อาวุโสของไทยที่กล่าวในวันนี้ (13) ว่า ไทย , มาเลเซีย และอินโดนีเซีย จะยังคงผลักดันเรือผู้อพยพกลับสู่ทะเล
“เท่าที่ผมทราบ อินโดนีเซีย , มาเลเซีย และไทย ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่รับผู้อพยพทางเรือ” พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาลไทย บอกกับรอยเตอร์
เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำร้องขอของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เมื่อวันอังคาร (12) ที่จะให้มีปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยผู้อพยพจำนวนมากที่ติดอยู่กลางทะเลระหว่างไทย , มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
กระทรวงมหาดไทยมาเลเซียก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อคำร้องขอดังกล่าวของยูเอ็นด้วยเช่นกัน
ทางการไทยนั้นกำลังบังคับใช้นโยบายที่ยึดถือมาเนิ่นนานในการผลักดันเรือผู้อพยพกลับออกไป นโยบายดังกล่าวประกอบด้วยการให้อาหาร , น้ำดื่ม , เชื้อเพลิง และความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้อพยพ แต่ยับยั้งไม่ให้พวกเขาขึ้นฝั่ง
ด้านเจ้าหน้าอาวุโสทางทะเลของมาเลเซียรายหนึ่ง กล่าวเมื่อวานนี้ (12) หลังจากที่ผู้อพยพกว่า 1,000 คนมาถึงเกาะลังกาวีของมาเลเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เรือลำใดก็ตามที่พยายามจะขึ้นมาฝั่งมาอีก จะถูกส่งกลับไป
“เราไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้ามา ” พล.ร.ต ตัน ก๊อก กวี ผู้บังคับการของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลประจำภาคเหนือมาเลเซีย กล่าว และเสริมว่า “มันเป็นเรื่องของนโยบาย”
สำหรับทางอินโดนีเซีย มีรายงานว่าเมื่อวันจันทร์ (11) แดนอิเหนาได้มอบอาหาร , น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์ให้กับผู้อพยพราว 500 คนบนเรือลำหนึ่งนอกชายฝั่งของจังหวัดอาเจะห์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ก่อนที่จะส่งเรือลำดังกล่าวออกสู่ทะเล เพื่อให้ไปยังมาเลเซีย
กองทัพเรืออินโดนีเซีย ระบุว่า ผู้โดยสารบนเรือลำดังกล่าวที่พวกเขาส่งต่อไปนั้นต้องการที่จะไปยังมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม นักสิทธิมนุษยชนเตือนว่า มาตรการปราบปรามของไทยอาจทำให้ผู้ลี้ภัยหลายพันคนต้องลอยเรืออยู่กลางทะเลโดยปราศจากทั้งอาหารและน้ำ ส่วนพวกเครือข่ายค้ามนุษย์ก็คงหาเส้นทางลำเลียงคนใหม่ไม่ให้ถูกสกัดจับได้
ส่วนข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์) แถลงว่า มีชาวโรฮิงญาและบังกลาเทศประมาณ 25,000 คน อยู่บนเรือของแก๊งค้ามนุษย์ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 และตัวเลขอย่างเป็นทางการพบว่า มีผู้เสียชีวิตกลางทะเลประมาณ 300 คน ในไตรมาสแรกของปีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=tlKplXt1uX0