การรณรงค์ของยุโรปเพื่อให้อิสราเอลยุติการปิดล้อมดินแดนฉนวนกาซา (The European Campaign to End the Siege on Gaza) ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์(11)ที่ผ่านมาว่า เรือลำแรกที่มีส่วนร่วมในกองเรือเพื่อเสรีภาพครั้งที่ 3 จะออกเดินทางจากเมืองโกเธนเบิร์กประเทศสวีเดนมุ่งหน้าไปยังกรุงโคเปนเฮเกนเดนมาร์กสำหรับการเดินทางเกือบ 5,000 ไมล์ทะเลเพื่อให้อิสราเอลยุติการปิดล้อมฉนวนกาซา
ในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่าเรือ Marianne จะเข้าร่วมกับกองเรือเพื่อเสรีภาพออกเดินทางจากสวีเดน มุ่งหน้าสู่ฉนวนกาซา โดยจะไปรวมกับเรือลำอื่นๆ ในนอร์เวย์
กองเรือเพื่อแสรีภาพเกิดขึ้นครั้งแรกโดยกองเรือ Mavi Marmara ที่นำโดยตุรกี เพื่อฝ่าการปิดล้อมของอิสราเอลมุ่งนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา แต่เรือบรรเทาทุกข์ดังกล่าวกลับถูกหน่วยรบพิเศษอิสราเอลโจมตีในน่านน้ำสากลเมื่อเดือนพฤษภาคม 2010 พร้อมสังหาร 10 นักกิจกรรมบรรเทาทุกข์ และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เรือและของบนเรือทั้งหมดจะถูกทารอิสราเอลปล้นและลากเข้าไปยังท่าเรือแอชดอทในพื้นที่ที่อิืสราเอลยึดครองไปจากชาวปาเลสไตน์แล้วตั้งเป็นประเทศอิสราเอล
Mazen Kahil ประธานโครงการรณรงค์เพื่อยุติยุโรปล้อมฉนวนกาซากล่าวว่าความพยายามขององค์กรต่างๆ ระหว่างประเทศได้พยายามมาอย่างต่อเนื่องในการเรียกร้องให้มีการยุติการปิดล้อมดินแดนฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมมาแล้วกว่า 8 ปี
Kahil กล่าวว่าความพยายามของยุโรปมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ประชาคมระหว่างประเทศตระหนักถึงความรับผิดชอบของพวกเขา ในการยกเรื่องการปิดล้อมฉนวนกาซามาเป็นประเด็นแรกๆ ในการเจรจาทางการเมืองต่างๆ เพื่อทำลายการปิดล้อมของอิสราเอลที่มีต่อฉนวนกาซา
Kahil เรียกร้องให้นานาชาติที่จะเข้าร่วมความพยายามของยุโรปที่จะทำลายการปิดล้อมฉนวนกาซา เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
โดยกองเรือเพื่อเสรีภาพครั้งนี้ มีการระบุว่า Moncef Marzouki อีดตประธานาธิบดีตูนีเซียจะร่วมเดินทางไปด้วย
ทั้งนี้เรือจะบรรทุกสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงค์ชีวิตต่างๆ และรวมไปถึงแผงเซลล์แสงอาทิตย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์