ตำรวจอินโดนีเซียเข้าช่วยเหลือลูกเรือประมงพม่าที่เชื่อว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 45 คนจากโรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุงจาการ์ตา สถานที่ซึ่งนายหน้าพาพวกเขาไปซ่อนตัวหลังเดินทางด้วยเอกสารปลอม เจ้าหน้าที่เผยในวันพฤหัสบดี (6) ขณะที่เหยื่อเล่าถูกนายหน้าล่อลวงจะพาไปทำงานในไทยแต่สุดท้ายก็ถูกบังคับใช้แรงงานทาส และจากการตรวจค้นพบทั้งหมดถือเอกสารคนประจำเรือไทยที่เป็นของปลอม
พ.ต.ท.อารี ดาร์มันโต ผู้บัญชาการหน่วยปราบปรามค้ามนุษย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย เผยว่า เจ้าหน้าที่แกะรอยคนกลุ่มนี้ผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จนทราบว่าพวกเขาถูกพามาจากเกาะอัมบอน ทางตะวันออกของประเทศสู่เมืองหลวง
“แน่ชัดว่าพวกเขาเป็นเหยื่อค้ามนุษย์” พล.ท.บูดี วาเซโซ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนแห่งชาติกล่าว “เรายังคงเดินหน้าสืบสวนคดีนี้เพื่อเปิดโปงเครือข่ายค้ามนุษย์และหาว่าใครบงการเรื่องนี้”
อัมบอน เป็นหมู่เกาะเดียวกับเกาะเบนจินาซึ่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวเอพีเพิ่งเปิดโปงว่าถูกใช้เป็นพื้นที่บังคับใช้แรงงานลูกเรือประมงต่างชาติเยี่ยงทาสบนเรือประมงไทย ไม่ว่าจะเป็นพม่า กัมพูชา ไทยและลาว และบางคนถูกพบในสภาพโดนคุมขังอยู่
ในส่วนของกลุ่มชายที่ได้รับความช่วยเหลือสดๆร้อนๆ เหยื่อคนหนึ่งเปิดเผยกับเอพีรู้สึกสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่และเขากับคนอื่นๆ มาลงเอยที่จาการ์ตาได้อย่างไร โดยเขาบอกว่านายหน้าคนหนึ่งล่อลวงพวกเขามาจากพม่า อ้างว่าจะพาไปทำงานในไทย แต่ถูกนำตัวขึ้นเรือประมงและพาไปยังเกาะอัมบอน ซึ่งพวกเขาถูกแยกให้ทำงานบนเรือประมง 4 ลำ
เหยื่อรายนี้บอกกับเอพีต่อว่าทุกคนได้รับแจกเอกสารคนประจำเรือไทยที่เป็นของปลอมแม้จะเป็นชาวพม่า พวกเขาทำงานให้กับบริษัทมานานสุด 4 ปี และได้รับค่าจ้างน้อยกว่าที่เคยสัญญา แต่มีเหยื่อคนหนึ่งเสริมว่าตัวเขาเองไม่ได้รับค่าแรงมานานกว่า 3 ปีแล้ว “เราถูกทำร้ายบนเรือและไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดพัก แม้แต่ตอนล้มป่วย” ชาวพม่าคนหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอก โดยอ้างเกรงว่าจะถูกแก้แค้น
เขาเล่าว่าพวกเขาถูกพาตัวขึ้นเครื่องบินมายังจาการ์ตาด้วยเอกสารปลอมเมื่อ 2 เดือนก่อนและก็กลับไปยังเกาะอัมบอน จากนั้นก็บินกลับมาเมืองหลวงอีกรอบเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนได้รับความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่พวกเขาถูกพาตัวบินกลับไปกลับมา 2 รอบยังไม่เป็นที่ชัดเจน
ตำรวจกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อสรุปว่าชายเหล่านี้เป็นเหยื่อค้ามนุษย์จริงหรือไม่ และคลี่คลายข้อสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้โดยปราศจากเอกสารที่ถูกต้อง โดยตอนนี้ทั้งหมดถูกนำตัวไปคุ้มครองที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง
“พวกเขาเป็นแค่เหยื่อ เราจะเปิดโปงความจริง ในนั้นรวมถึงวิธีดำเนินการของเครือข่ายอาชญากรรมนี้” วาเซโซกล่าว พร้อมระบุว่าตำรวจจะสอบปากคำและสืบสวนบริษัทนายจ้างของลูกเรือเหล่านี้ ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด
ขอบคุณ AP/ASTV