แกนนำแพทย์ชนบทภาคใต้เขียนจดหมายถึง สกว. เผยรับงบ กฟผ.มาส่งเสริมการวิจัยในชุมชนเรื่องพลังงาน เน้นจังหวัดที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเช่น กระบี่ สงขลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช ชี้เด็กประถมยังเข้าใจว่างานนี้มีเลศนัย ถามจะทำลายเครดิตตนเองที่สะสมมายาวนานทำไม
เมื่อวันจันทร์ (26 กันยายน) MGR Online รายงานว่า นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา และแกนนำแพทย์ชนบทภาคใต้ ได้เขียนจดหมายในเฟชบุ๊กส่วนตัว Supat Hasuwannakit โดยระบุว่า “จดหมายถึง สกว. “อย่าตกเป็นเครื่องมือของทุนถ่านหิน”
สกว.หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ช่วงนี้ออกอาการแปลกผิดปกติ เกิดอาการตาลายสับสนไปรับงบ กฟผ.มาส่งเสริมการวิจัยในชุมชนเรื่องพลังงาน โดยทำท่าจะเน้นหนักในจังหวัดที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเช่น กระบี่ สงขลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ซึ่งเด็กประถมยังเข้าใจว่างานนี้มีเลศนัย
ความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับ กฟผ.ในพื้นที่สร้างไม่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นสูงมาก สกว.เป็นหน่วยงานสร้างความรู้ที่สั่งสมชื่อเสียงภาพลักษณ์มายาวนาน จนชาวบ้านยอมรับ ชุมชนมีความคิดเชิงบวกต่อ สกว.โดยเฉพาะงาน สกว.ท้องถิ่นที่เป็นความหวังและมีความโดดเด่นมาก แต่วันนี้ สกว.ท่าทางจะเดินเป๋ๆไปจากรอยทางเดิมเสียแล้ว ทำท่าจะกลายมาเป็นเครื่องมือให้กับกลุ่มทุนมารุกรานชุมชนในนามของการวิจัย
กฟผ.คงไม่ให้งบกับ สกว.ด่วยความบริสุทธิ์ใจหรอก เขาก็อยากใช้ สกว.เป็นเครื่องมือทำประชาสัมพันธ์ ทำงานมวลชนให้องค์กรตนเอง เพราะ กฟผ.ในวันนี้ชาวบ้านให้คะแนนต่ำติดดินมาก จะทำกิจกรรมปล่อยปลาปลูกป่าในพื้นที่ขัดแย้ง หากไม่แจกเสื้อแจกเงินแถมค่ารถและของชำร่วย แทบจะไม่มีใครเขาไปร่วม ทุกอย่างต้องใช้เงินจ้าง จนไปไม่ได้แล้ว จึงต้องหากลยุทธ์อื่น
เช่นนี้แล้ว สกว.องค์กรที่มีเครดิตยาวนานจะไปเป็นเครื่องมือให้ กฟผ.ทำไม จะทำลายเครดิตตนเองที่สะสมมายาวนานทำไม นอกจากเป็นการทำลายเครือข่ายชุมชนที่เป็นพันธมิตรของ สกว.แล้ว ยังสร้างความลำบากใจและเท่ากับเป็นการทำลายเจ้าหน้าที่ สกว.ในพื้นที่ด้วย
ทางออกเรื่องนี้ไม่ยากนัก หากความร่วมมือนี้เลิกได้ก็เลิกเสีย ความผิดพลาดเกิดได้ก็ควรรีบแก้ไข หากเลิกไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ขอให้ปรับ TOR ไปเลือกพื้นที่ปฏิบัติการในจังหวัดอื่นที่ไม่มีข้อขัดแย้งของชุมชนกับ กฟผ.แทน
หัวใจขององค์กรที่มีหน้าที่สร้างความรู้คือความเชื่อมั่นและศรัทธาของสาธารณะต่อองค์กรเฉกเช่น สกว. การวางตัวที่เหมาะสมจึงสำคัญมาก มากกว่าเรื่องงบไม่พอ จงอย่าเห็นแก่เศษเงิน
ผมจึงขออนุญาตตำหนิกันตรงๆ ด้วยความเชื่อมั่นต่อ สกว.ในการเบนหัวกลับมาสู่การเป็นองค์กรจัดความรู้ที่ไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของทุน”