ร้องปกป้องมุสลิมพม่า หลังพบล่าสุดถูกสั่งห้ามละหมาด

การขยายกรอบการควบคุมชาวมุสลิมพม่า เพิ่มเติมไปยังการจำกัดสิทธิในการละหมาด ควรเป็นสิ่งที่ได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วนตามข้อเรียกร้องของ Human Rights Watch

กลุ่มสิทธิมนุษยชนชั้นนำของโลกออกมาเรียกร้องเมื่อวันจันทร์(5 มิถุนายน) ให้รัฐบาลพม่าดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในการปกป้องสิทธิชาวมุสลิมในประเทศ หลังจากถูกคุกคามสิทธิในทางศาสนาเพิ่มขึ้น

ตำรวจกำลังดำเนินคดีกับชาวมุสลิม 3 คน หลังจากที่พวกเขาละหมาดในที่สาธารณะของนครย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของพม่า เพื่อเป็นการประท้วงหลังจากทางการท้องถิ่นสั่งปิดโรงเรียน 2 แห่ง ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มชาตินิยม ทำให้สถานที่สำหรับทำละหมาดของชาวมุสลิมในนครย่างกุ้งไม่เพียงพอสำหรับเดือนรอมฎอนในปีนี้

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของพม่าได้เตือนชาวมุสลิมว่าไม่ควรละหมาดเช่นนั้นโดยอ้างว่าเป็นการคุกคามความมั่นคง และผิดกฎหมาย

เมื่อวันจันทร์ที่(5)ผ่านมา Human Rights Watch ได้แถลงการณ์ว่า “หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความล้มเหลวของรัฐบาลในการปกป้องเสรีภาพทางศาสนาของชาวมุสลิมในพม่า”

“การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ที่ควรได้รับการกล่าวโทษอย่างเร่งด่วนจากผู้นำระดับสูง หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง” ฟิล โรเบิร์ตสันผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคเอเชีย ของ Human Rights Watch กล่าว

เขาเสริมว่านางอองซานซูจีผู้นำพม่าควรจะก้าวเข้าสู่การปกป้องเสรีภาพในการนับถือศาสนา และความเชื่อ หากกระทรวงที่ควบคุมโดยทหารไม่ยอมดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

“ผู้ที่ปฎิบัติตามความเชื่อทางศาสนาไม่ควรถูกข่มขู่ หรือถูกตั้งข้อหาอาชญากรเพียงเพื่อใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการดำเนินการ หรือปฎิบัติตามหลักศาสนาของพวกเขา” เขากล่าว

ชาวมุสลิมในเขต Meikhtila ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในเขตมัณ ฑะเลย์กลางซึ่งต้องประสบกับความรุนแรงในการต่อต้านอิสลามเมื่อปี 2013 ก็กำลังเผชิญกับความท้าทายที่คล้ายคลึงกันในอดีตในขณะนี้ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ที่(4)ผ่านมา

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ Voice เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้เข้าดำเนินการในการสั่งห้ามชาวมุสลิมจากการละหมาดในเดือนรอมฎอนในสถานที่สามแห่งในเขต Thiri Mingalar โดยอ้างว่าการปฎิบัติศาสนกิจในอาคารที่ไม่ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางศาสนา เช่นบ้าน ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิดปัญหาได้

ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมามีมัสยิด 5 แห่ง จากทั้งหมด 13 แห่งที่ถูกสั่งปิดโดยทางการนับแต่ปี 2013 ที่สามารถกลับมาเปิดใหม่ได้อีกครั้ง

HRW เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายที่มีการเลือกปฎิบัติต่อชุมชนของผู้นับถือศาสนาที่เป็นส่วนน้อยของประเทศ

โรเบิร์ตสันส์กล่าวว่า “กฎระเบียบที่ออกมาเพื่อคุกคามสิทธิชนกลุ่มน้อย ยังรวมถึงการห้ามในการซ่อมแซมสถานที่ทางศาสนา เช่นมัสยิด หรือโบสถ์ ก็ควรถูกยกเลิกทันที”

“นางอองซานซูจี และรัฐบาลภายใต้การนำของพรรค NLD ควรตระหนักว่าโลกกำลังเฝ้าดูว่าพวกเขาจัดการกับสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างมากนี้ได้อย่างไร และจะไม่ยอมรับข้อแก้ตัวใดๆ”

ที่มา World Bulletin

ความคิดเห็น

comments