กัฟนิวส์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (6 กรกฎาคม) ว่า สมาพันธ์อ่าวเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (The Gulf Association for Rights and Freedoms) ได้ยื่นร้องต่อผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานสากล ILO และสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ ในกรุงเจนีวา ให้เข้าปกป้องแรงงานต่างชาติกว่า 2 ล้านคนที่ทำงานอยู่ในกาตาร์อย่างเร่งด่วน
โดยทางสมาพันธ์ได้ร้องขอให้หน่วยงานทั้งสองเข้ามาแทรกแซงอย่างเร่งด่วน หลังโดฮาออกคำสั่ง “ห้ามไม่ให้พลเมืองกาตาร์และชาวต่างชาติที่ทำงานในกาตาร์สามารถลาหยุดประจำปี”
โดยทางหน่วยงานชี้ว่า คำสั่งที่ออกมานั้นละเมิดอย่างร้ายแรงต่อประชาชนและแรงงานต่างชาติในประเทศที่มีจำนวน 2.2 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาจากประเทศแถบเอเชีย
ขณะที่ โมฮัมหมัด ฮาเยฟ (Mohammad Hayef) โฆษกของสมาพันธ์อ่าวเพื่อสิทธิและเสรีภาพออกมาชี้ว่า รัฐบาลโดฮาไม่เพียงแต่ห้ามไม่ให้ลาหยุดประจำปี แต่ยังรวมไปถึงการยกเลิกการลาหยุดทุกประเภทอีกด้วย ซึ่งฮาเยฟชี้ว่า การห้ามเช่นนี้ถือเป็นผลเสียต่อสภาพการทำงานของแรงงาน และชี้ต่อว่า การประกาศห้ามไม่ให้แรงงานลาหยุดประจำปีอาจทำให้ตัวเลขอุบัติเหตุและการเสียชีวิตจากการทำงานนั้นมีเพิ่มขึ้น เพราะทำให้แรงงานเหล่านี้ตกอยู่ในสภาพเป็นอันตรายทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อม รวมไปถึงความกดดันทางสังคม โดยเฉพาะกับคนงานก่อสร้างที่กำลังทำงานในโปรเจกต์ฟีฟา เวิลด์คัพ 2022 ที่ทางกาตาร์เป็นเจ้าภาพ
ในแถลงการณ์ของฮาเยฟ ได้เรียกร้องให้ทางองค์การแรงงานสากล ILO และสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติออกมาประณามคำสั่งห้ามลาหยุดประจำปีของกาตาร์ โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่มีเหตุผล