กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านเปิดเผยเมื่อวันพุธ(3 มกราคม)ว่าเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นหลายวันในอิหร่านสิ้นสุดลงแล้ว และบอกว่ามีผู้เข้าร่วมประท้วงทั่วประเทศเพียง 15,000 คนเท่านั้น
“วันนี้เราสามารถประกาศจุดจบของการปลุกระดมได้” Mohammad Ali Jafari ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านกล่าว
“ในแต่ละสถานที่มีผู้คนเข้าร่วมสูงสุด 1,500 คน และจำนวนผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทั้งหมดไม่เกิน 15,000 คนทั่วประเทศ” เขากล่าวในเว็บไซต์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน
“แกนนำจำนวนมากของการปลุกระดมผู้ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากนักปฎิวัติ … ถูกจับกุม และจะมีการดำเนินการอย่างจริงจังกับพวกเขา”
Jafari กล่าวอีกว่ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านซึ่งเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยแบบคู่ขนานที่ขึ้นตรงต่อนายอาลี โคเมเนอี เพียงคนเดียวเท่านั้นได้เข้าแทรกแซงการประท้วง ในจังหวัด Isfahan, Lorestan และ Hamedan
การประท้วงที่เริ่มต้นจากปัญหาเศรษฐกิจเกิดขึ้นในเมือง Mashhad เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วประเทศโดยแปรเปลี่ยนการมาเป็นการประท้วงต่อต้านระบอบการปกครองของโคเมเนอี
มีผู้เสียชีวิต 21 ราย ในขณะที่ผู้ประท้วงได้โจมตีอาคารของรัฐบาล และสถานีตำรวจในบางพื้นที่
“นักปฏิวัติ ใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ” Jafari กล่าว
เขาอ้างว่ามีผู้ประท้วงนับพันคนที่มาจากต่างประเทศ โดยได้รับการฝึกฝนจากสหรัฐฯ ขณะที่ภายในประเทศมีกลุ่มที่สนับสนุนระบอบกษัตริย์ และกลุ่มผู้สนับสนุนกลุ่มมุญาฮิดีนฝ่ายค้านที่ถูกเนรเทศเข้าร่วม
เมื่อเจ้าหน้าที่อิหร่านปิดสื่อออนไลน์ ก็ตัดการส่งเสริมความไม่สงบลงได้ เขากล่าวพร้อมย้ำว่า “แต่เมื่อเริ่มปิดระบบสื่อสาร ปัญหาก็ลดลง”
https://www.youtube.com/watch?v=ps4vuYi2rcs