นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้นำพม่าเมื่อวันอังคาร (9) ว่า การสอบสวนที่น่าเชื่อถือในข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมโรฮิงญาเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดในรัฐยะไข่
อาเบะกล่าวในการแถลงข่าวร่วม หลังการพบหารือกับนางอองซานซูจี ที่ญี่ปุ่นจะสนับสนุนความพยายามของพม่าในการจัดหาที่พักให้ชาวโรฮิงญาที่เดินทางกลับจากค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ
“ปัญหานี้มีความซับซ้อนและจริงจัง ญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนต่อความพยายามของพม่าในการแก้ไขปัญหา การสืบสวนที่น่าเชื่อถือโดยคณะทำงานที่เป็นอิสระมีความสำคัญอย่างยิ่ง” ผู้นำญี่ปุ่น กล่าว
ทหารพม่าถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง ที่รวมทั้งการข่มขืน การสังหาร ทรมาน และการเผาหมู่บ้าน ที่ผลักดันให้ชาวโรฮิงญากว่า 700,000 คน ต้องอพยพหลบหนีตายไปบังกลาเทศตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2560
รัฐบาลของนางอองซานซูจีปฏิเสธการสืบสวนระหว่างประเทศ และกล่าวปกป้องคณะกรรมการของรัฐบาลว่ามีความเป็นอิสระและมีประสิทธิภาพ คณะทำงานที่ประกอบด้วยสมาชิกต่างชาติ 2 คนจากญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ และชาวพม่าอีก 2 คน ที่ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนและประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ
“เรารู้สึกยินดีกับการสนับสนุนของญี่ปุ่นต่อความพยายามของเราสำหรับการเดินทางกลับประเทศของบรรดาผู้ลี้ภัย” ซูจี ที่อยู่ระหว่างเยือนกรุงโตเกียวเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น กล่าว
รัฐบาลพม่าได้มอบอำนาจหน้าที่ให้คณะทำงานชุดดังกล่าว หลังกลุ่มสิทธิมนุษชนเรียกร้องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้าสืบสวนการละเมิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่รัฐบาลพม่าไม่ได้เป็นรัฐสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ และปฏิเสธการมีส่วนร่วมในกระบวนการของศาลดังกล่าว